“ชั้นวางของ” ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานที่แทบทุกบ้านต้องมี ไม่ว่าจะไว้จัดเก็บหนังสือ ของตกแต่ง หรืออุปกรณ์ในครัว
แต่แทนที่จะซื้อชั้นสำเร็จรูปที่ราคาอาจสูง หลายคนเริ่มหันมาทำ “ชั้นวางของ DIY” เพราะทั้ง ประหยัด สร้างสรรค์ และทำให้บ้านมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
นอกจากช่วยตกแต่งบ้านแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่ทำได้สนุกในวันหยุด ใช้เวลาไม่นาน และไม่ต้องมีทักษะช่างมืออาชีพ
🧱 ประเภทของชั้นวางของ DIY ยอดนิยม
ก่อนเริ่มทำ เรามาดูแนวคิดการออกแบบชั้นวางของที่นิยมกันก่อน เพื่อเลือกแบบที่เหมาะกับบ้านของคุณ
- ชั้นวางของติดผนัง (Floating Shelf)
– ประหยัดพื้นที่ ดูเรียบง่าย เหมาะกับห้องเล็ก
– ใช้ไม้กระดานและขายึดเหล็กเพียงไม่กี่ชิ้น - ชั้นวางของตั้งพื้น (Standing Shelf)
– เคลื่อนย้ายสะดวก จัดของได้เยอะ
– ใช้ไม้พาเลทหรือแผ่นไม้ MDF ทำได้ง่าย - ชั้นวางของจากกล่องไม้ / ลังผลไม้
– ดัดแปลงจากของเหลือใช้ ตกแต่งสไตล์วินเทจหรือมินิมอล
– ใช้สกรูและสีทาไม้เพิ่มความสวยงาม - ชั้นเหล็กผสมไม้ (Industrial Style)
– ให้ลุคเท่ ๆ แบบโรงงานอุตสาหกรรม
– ใช้ท่อเหล็กดำกับไม้จริง ทำเองได้ง่าย
🧰 อุปกรณ์และเครื่องมือพื้นฐานที่ต้องใช้
ไม่ว่าจะทำชั้นแบบไหน ก็ใช้เครื่องมือหลัก ๆ ดังนี้
- ไม้กระดาน / แผ่นไม้ MDF / ไม้พาเลท
- สกรู / ตะปู / ขายึดเหล็ก
- สว่านไฟฟ้า หรือไขควง
- ค้อน / เลื่อย / กระดาษทราย
- สีไม้ (วานิช / สีสเปรย์ / สีทาอะคริลิก)
- ตลับเมตรและดินสอสำหรับวัดระยะ
💡 เคล็ดลับ:
ก่อนเริ่มทำ ควรวางแบบร่างบนกระดาษ (Sketch) เพื่อคำนวณขนาดให้พอดีกับพื้นที่จริงในบ้าน
🪵 วิธีทำชั้นวางของแบบง่ายๆ (Step by Step)
🪚 ตัวอย่างที่ 1: ชั้นวางของติดผนัง
ขั้นตอนที่ 1: วัดขนาดพื้นที่
เลือกผนังที่ต้องการติดตั้ง แล้ววัดความกว้างและความสูงที่เหมาะสม เช่น
- ยาว 80 ซม.
- ลึก 20 ซม.
- ห่างจากพื้นประมาณ 1.2 เมตร
ขั้นตอนที่ 2: ตัดไม้
ใช้เลื่อยตัดไม้ตามขนาดที่วัดไว้ แล้วขัดด้วยกระดาษทรายให้เรียบ
ขั้นตอนที่ 3: ติดขายึด
ติดขายึดเหล็กเข้ากับไม้ จากนั้นใช้สว่านเจาะรูบนผนังและขันสกรูยึดให้แน่น
ขั้นตอนที่ 4: ทาสีตกแต่ง
เลือกสีให้เข้ากับสไตล์บ้าน เช่น
- สีไม้ธรรมชาติสำหรับบ้านสไตล์อบอุ่น
- สีดำด้านสำหรับบ้านสไตล์ลอฟท์
- สีขาวเรียบสำหรับมินิมอล
💡 เทคนิคเสริม:
เพิ่มไฟ LED ใต้ชั้นไม้ จะช่วยให้ดูหรูและสว่างขึ้น
🪵 ตัวอย่างที่ 2: ชั้นวางของจากกล่องไม้
ขั้นตอนที่ 1: เตรียมกล่องไม้
สามารถใช้ “ลังผลไม้” หรือ “กล่องไม้รีไซเคิล” มาขัดและทำความสะอาด
ขั้นตอนที่ 2: จัดเรียงแบบ
นำมาวางซ้อนหรือต่อกันเป็นชั้น ๆ ตามต้องการ
สามารถยึดด้วยสกรูหรือกาวไม้เพื่อความมั่นคง
ขั้นตอนที่ 3: ทาสีตกแต่ง
ใช้สีพาสเทลหรือสีธรรมชาติ ทาให้กล่องดูใหม่และน่ารัก
ขั้นตอนที่ 4: จัดของตกแต่ง
วางหนังสือ ต้นไม้เล็ก ๆ หรือของสะสม จะได้มุมโชว์ที่สวยเก๋ไม่เหมือนใคร
🪚 ตัวอย่างที่ 3: ชั้นวางของไม้พาเลท
ขั้นตอนที่ 1: แยกไม้พาเลท
ใช้ค้อนและเลื่อยแยกไม้พาเลทออกมาเป็นแผ่น ๆ
ขั้นตอนที่ 2: ตัดไม้ตามขนาด
ออกแบบให้มี 3 ชั้นขึ้นไป โดยแต่ละชั้นห่างกันประมาณ 30 ซม.
ขั้นตอนที่ 3: ประกอบชั้น
ใช้สกรูและสว่านยึดแต่ละชั้นเข้าด้วยกัน
หากอยากเคลื่อนย้ายสะดวก สามารถติดล้อเลื่อนด้านล่างได้
ขั้นตอนที่ 4: เคลือบเงา
ทาน้ำยาเคลือบไม้หรือวานิช เพื่อให้สีไม้คงทนและกันชื้น
🎨 ไอเดียตกแต่งชั้นวางของ DIY
- วางต้นไม้กระถางเล็ก ๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่น
- จัดหนังสือสลับของตกแต่ง เช่น กรอบรูปหรือเทียนหอม
- ใช้ไฟตกแต่ง (Fairy Light) สร้างบรรยากาศอบอุ่น
- ใช้ตะกร้าหรือกล่องผ้า ซ่อนของเล็ก ๆ ให้ดูเรียบร้อย
- ติดป้ายไม้หรืออักษรตกแต่ง ให้ดูเป็นมุมพิเศษในบ้าน
🧩 เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับมือใหม่
- ใช้ ไม้ MDF หรือไม้ยางพารา เพราะน้ำหนักเบาและตัดง่าย
- ก่อนเจาะผนัง ควรตรวจสอบตำแหน่งท่อและสายไฟ
- หากเป็นผนังเบา ควรใช้พุกชนิดพิเศษเพื่อรับน้ำหนัก
- อย่าลืมใส่ ถุงมือและแว่นตา ป้องกันเศษไม้เข้าตา
💸 งบประมาณโดยประมาณ
ประเภทชั้น | วัสดุหลัก | งบประมาณโดยเฉลี่ย |
---|---|---|
ชั้นวางติดผนัง | ไม้ + ขายึด | 300–700 บาท |
ชั้นวางกล่องไม้ | ลังไม้รีไซเคิล | 200–500 บาท |
ชั้นไม้พาเลท | ไม้พาเลท + ล้อเลื่อน | 500–1,000 บาท |
💡 ถูกกว่าซื้อสำเร็จรูป 3–5 เท่า!
🌟 สรุป
การทำชั้นวางของเองไม่เพียงช่วยประหยัดงบ แต่ยังทำให้ได้ของตกแต่งที่ “ตรงใจ” และเข้ากับบ้านที่สุด
เพียงเตรียมอุปกรณ์ไม่กี่ชิ้น ใช้เวลา 1–2 ชั่วโมง ก็ได้ชั้นวางของสวย ๆ ใช้งานได้จริง
🪵 “ของแต่งบ้านที่ดีที่สุด คือของที่คุณลงมือทำเองด้วยใจ” ❤️