กรณีลูกบ้านรายหนึ่งไม่จ่ายค่าส่วนกลางนานถึง 9 ปี กลายเป็นประเด็นร้อนที่ชุมชนหลายแห่งเฝ้าจับตามอง ไม่ใช่แค่เพราะระยะเวลาที่ยาวนาน แต่ยังสะท้อนปัญหาในการบริหารจัดการหมู่บ้านหรืออาคารชุด และความเข้าใจในสิทธิและหน้าที่ของผู้อยู่อาศัย
บทความนี้จะพาไปดูผลกระทบทางกฎหมายที่เกิดขึ้น วิธีการจัดการของนิติบุคคล รวมถึงบทเรียนที่ควรนำไปปรับใช้ในโครงการอื่น ๆ
เหตุผลที่ลูกบ้านไม่จ่ายค่าส่วนกลาง
ลูกบ้านบางรายอาจหยุดจ่ายค่าส่วนกลางเพราะรู้สึกว่าเงินถูกใช้ไม่คุ้มค่า การบริหารจัดการไม่โปร่งใส หรือมีความขัดแย้งกับคณะกรรมการหมู่บ้าน/นิติบุคคล แม้เหตุผลเหล่านี้จะฟังดูมีน้ำหนัก แต่ตามกฎหมายแล้ว เจ้าของร่วมยังคงมีหน้าที่ต้องชำระค่าส่วนกลาง ไม่สามารถยกเว้นได้
ผลกระทบเมื่อลูกบ้านไม่ชำระค่าส่วนกลาง
หากค้างชำระค่าส่วนกลาง นิติบุคคลมีสิทธิดำเนินการตามกฎหมายและข้อบังคับ เช่น
- ระงับสิทธิ์การใช้พื้นที่ส่วนกลาง เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส คลับเฮ้าส์
- ระงับระบบคีย์การ์ด หรือสิทธิ์การเข้าออก
- ไม่ออกใบปลอดหนี้ ทำให้ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์หรือขายบ้าน/คอนโดได้
- เรียกเก็บค่าปรับและดอกเบี้ยเพิ่ม
- ดำเนินการฟ้องร้องในชั้นศาลเพื่อเรียกเก็บหนี้
- หากศาลตัดสินแล้วไม่จ่าย อาจถูกยึดทรัพย์หรือขายทอดตลาด
ดอกเบี้ยและค่าปรับ
นิติบุคคลสามารถกำหนดค่าปรับและดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้ตามข้อบังคับที่แจ้งให้ลูกบ้านทราบแล้ว เช่น
- ดอกเบี้ยไม่เกิน 12-20% ต่อปี
- ค่าปรับไม่เกิน 10% ของยอดค้าง
- การระงับสิทธิบางอย่าง เช่น การประชุม หรือใช้สาธารณูปโภค
หากลูกบ้านค้างนานเกิน 6 เดือนและไม่มีแนวโน้มชำระ นิติบุคคลควรพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายทันที
อายุความในการเรียกเก็บหนี้
การเรียกเก็บค่าส่วนกลางมีอายุความ 5 ปี หากไม่ดำเนินการเรียกเก็บในช่วงเวลานี้ จะหมดสิทธิ์ตามกฎหมาย นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมนิติบุคคลต้องติดตามลูกหนี้อย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยปละละเลย
วิธีการจัดการของนิติบุคคล
เมื่อลูกบ้านไม่จ่ายค่าส่วนกลาง นิติบุคคลควรดำเนินการเป็นลำดับขั้น ดังนี้
- แจ้งเตือนด้วยหนังสือทวงถาม พร้อมระบุยอดค้าง ค่าปรับ และดอกเบี้ย
- หากไม่มีการตอบสนอง ให้ระงับสิทธิการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง
- เสนอการไกล่เกลี่ยหรือลดหนี้บางส่วนเพื่อหาทางออกร่วมกัน
- หากยังไม่ชำระ ควรส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมาย หรือดำเนินการฟ้องร้อง
กรณีศึกษา: ไม่จ่าย 9 ปี สุดท้ายต้องยอมชำระ
กรณีที่ลูกบ้านไม่จ่ายค่าส่วนกลางนานถึง 9 ปี สุดท้ายก็ต้องยอมชำระหนี้หลังถูกดำเนินการตามกฎหมาย การเพิกเฉยไม่ช่วยแก้ปัญหา แต่กลับส่งผลกระทบระยะยาวต่อชื่อเสียง ทรัพย์สิน และความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน
บทเรียนสำคัญ
- การไม่พอใจการบริหารไม่ใช่เหตุผลเพียงพอที่จะหยุดจ่ายค่าส่วนกลาง
- นิติบุคคลควรมีระบบบริหารจัดการที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และตอบคำถามลูกบ้านได้
- ทุกฝ่ายควรเปิดใจพูดคุย และใช้ช่องทางไกล่เกลี่ยก่อนดำเนินคดี
- ลูกบ้านควรตระหนักว่า การจ่ายค่าส่วนกลาง คือการร่วมดูแลชุมชนของตนเอง
สรุป
ค่าส่วนกลางไม่ใช่ภาระ แต่คือความรับผิดชอบร่วมกัน หากมีปัญหาเกี่ยวกับการบริหาร ควรใช้สิทธิของตนในฐานะเจ้าของร่วม เช่น เสนอเปลี่ยนคณะกรรมการ ยื่นตรวจสอบการใช้งบ หรือเสนอแนะต่อที่ประชุม แทนที่จะหยุดจ่ายเงิน เพราะสุดท้ายผู้ที่เสียหายที่สุด อาจเป็นตัวเราเอง