หนี้บัตรเครดิตมีอายุความกี่ปีในประเทศไทย?
หนี้บัตรเครดิตถือเป็นหนี้ที่หนาแน่นและทรัพย์สินซับซ้อน บ่อยครั้งที่ผู้ใช้บริการแบกรับภาระแคนน้อยกว่าที่คิด เมื่อไม่ได้จ่ายครบและตรงเวลาตามที่กำหนด ระยะเวลาที่เจ้าหนี้มีสิทธิดำเนินคดีในศาลเรียกว่า “อายุความ” ซึ่งในกรณีหนี้บัตรเครดิตตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ระบุไว้ชัดเจนว่า อายุความของหนี้ประเภทนี้คือ สองปี
จุดเริ่มนับอายุความ
- เริ่มนับตั้งแต่วันที่ผิดนัดชำระหนี้งวดแรก
- หรือวันสุดท้ายที่มีการชำระหนี้ (หากมีการจ่ายบางส่วน) แล้วแต่เหตุการณ์ใดเกิดก่อน
ยกตัวอย่างเช่น หากมียอดเรียกเก็บในวันที่ 1 มกราคม มาก็ต้องชำระภายในวันที่กำหนด หากไม่จ่าย อายุความจะเริ่มนับจากวันถัดไป เช่น 2 มกราคม ของปีนั้น และสิ้นสุดในเวลาก่อนสองปีเต็ม
หากมีการชำระหนี้บางส่วนในช่วงนั้น เช่น จ่ายเงินเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน การชำระนั้นถือเป็นวันใหม่ที่จะเริ่มนับอายุความใหม่อีกสองปี
เจ้าหนี้สามารถนำหนี้ฟ้องศาลได้หรือไม่?
แม้ว่าหนี้จะขาดอายุความแล้ว เจ้าหนี้ยังสามารถยื่นฟ้องได้ แต่ผู้ถูกฟ้องมีสิทธิ์คัดค้านศาลโดยอ้างว่า “หนี้ขาดอายุความ” หากศาลพิจารณาและรับคำค้านอย่างสมเหตุสมผล ศาลจะยกฟ้องทันที
การหยุดนับอายุความ
การที่เจ้าหนี้ยื่นฟ้องเป็นวิธีหนึ่งในการหยุดการนับอายุความ กล่าวคือหนี้ยังคงถูกบังคับใช้ได้ หากไม่หยุดเหมือนกรณีไม่ได้ยื่นฟ้องเลย
หากศาลมีคำพิพากษาและตัดสินให้เจ้าหนี้ชนะ เจ้าหน้าที่มีโอกาสดำเนินการบังคับคดี เช่น ทำการยึดทรัพย์ หรือหักเงินเดือนผู้ชนะคดี อย่างไรก็ตามการบังคับคดีต้องเริ่มภายใน 10 ปีนับจากวันศาลมีคำพิพากษา
ถ้าผู้กู้ชำระหนี้หลังจากหมดอายุความจะเกิดอะไรขึ้น?
การจ่ายหนี้หลังจากอายุความหมด เช่น ไปจ่ายยอดค้างบางส่วน ถือเป็นการ “รับรู้ข้อผูกพัน” อีกครั้ง และทำให้หนี้มีอายุใหม่ เริ่มนับอายุความใหม่อีกสองปีจากวันที่จ่าย นั่นอาจเป็นกลยุทธ์ที่ไม่ดีสำหรับผู้บริโภคเลี่ยงหนี้
ตารางสรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับอายุความหนี้บัตรเครดิต
หัวข้อ | รายละเอียด |
---|---|
อายุความ | 2 ปี |
เริ่มนับ | วันที่ผิดนัดชำระงวดแรก หรือวันจ่ายงวดล่าสุดที่มาก่อน |
เจ้าหนี้ยังฟ้องได้ | ได้ แต่ผู้กู้สามารถคัดค้านว่าหนี้ขาดอายุความผ่านศาลได้ |
นับอายุความใหม่เมื่อ | มีการชำระหนี้หลังจากหมดอายุความแล้ว |
หยุดนับเมื่อ | เจ้าหนี้ยื่นคำฟ้องในศาลหรือมีการชำระบางส่วน |
ระยะเวลาบังคับคดีหลังศาล | ภายใน 10 ปีนับจากวันที่ศาลพิพากษาชนะ |
คำแนะนำสำหรับผู้ที่ติดหนี้บัตรเครดิต
- หากผ่านระยะเวลาสองปีแล้ว อย่าจ่ายหนี้ เพราะการชำระจะนำไปสู่การนับอายุความรอบใหม่
- หากได้รับหนังสือฟ้องจากเจ้าหนี้ ให้รีบยื่นคำให้การคัดค้านเรื่อง “หนี้ขาดอายุความ” ทันที
- รวบรวมหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบแจ้งยอด, สลิปการชำระ, บันทึกการรับสายโทรศัพท์ติดต่อกับธนาคาร
- ควรหาทนายผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านกฎหมายแพ่ง เพื่อให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง และช่วยยื่นคำฟ้องหรือคำให้การในศาล
- หากมีการเจรจากับเจ้าหนี้ ให้ระบุชัดเจนว่าเลี่ยงการรับรู้หนี้หลังหมดอายุความ เพื่อไม่ให้หนี้เริ่มนับอายุใหม่อีกครั้ง
จุดที่ผู้อ่านควรระวัง
- เจ้าหนี้อาจยังโทรหรือส่งจดหมายเตือนตามปกติ แม้หนี้จะหมดอายุความแล้ว หากไม่ฟ้องหรือศาลยกฟ้อง ก็ยังไม่สามารถบังคับจ่ายได้
- การตกลงชำระหลังหมดอายุความอาจเป็นกับดักที่สร้างโอกาสให้เจ้าหนี้บังคับคดีได้อีก
- หนี้บัตรเครดิตส่วนมากมีเฉพาะ “อายุความสั้น” และไม่มีหลักประกัน หากจบที่ศาลและเสียค่าบังคับคดี เจ้าหนี้อาจไม่สามารถยึดทรัพย์ได้หนักเท่าหนี้ที่มีหลักประกัน
- แต่ถ้าทำในเชิงกฎหมาย เช่น มีการละเลยการชำระเรื้อรังและถูกฟ้องซ้ำก็ควรระวังการกลับเข้าข่าย “คดีแพ่ง” ซึ่งพิสูจน์ได้เหมือนคดีเดิม
สรุปประเด็นสำคัญ
- หนี้บัตรเครดิตมีอายุความ 2 ปี ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
- ระยะเวลาเริ่มนับตั้งแต่วันผิดนัดชำระงวดแรก หรือวันสุดท้ายที่ชำระงวดนั้น
- เจ้าหนี้อาจยื่นฟ้องได้ แต่ผู้กู้สามารถคัดค้านว่าหนี้ขาดอายุความได้
- การชำระหนี้หลังหมดอายุความจะเริ่มนับอายุความใหม่
- หากได้รับหมายศาลหรือฟ้องร้อง ควรยื่นคำตอบพร้อมบันทึกข้อเท็จจริงล่วงหน้า
- ควรปรึกษาทนายผู้เชี่ยวชาญเพื่อดำเนินคดีให้ชัดเจน