การวางเครื่องซักผ้านอกบ้านกลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมในยุคที่บ้านหรือคอนโดมีพื้นที่จำกัด โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ การจัดโซนซักผ้าไว้ภายนอกช่วยให้บ้านภายในดูสะอาด ไม่อับชื้น และยังใช้งานได้สะดวกเมื่อต้องซักและตากเสื้อผ้าในบริเวณเดียวกัน
นอกจากนี้ การวางเครื่องซักผ้านอกบ้านยังช่วยลดเสียงรบกวนในห้อง และป้องกันความสกปรกจากน้ำหรือผงซักฟอกที่อาจกระเด็นใส่พื้นภายในบ้าน
จุดที่เหมาะกับการวางเครื่องซักผ้านอกบ้าน
ก่อนเลือกตำแหน่ง ควรคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานและปัจจัยด้านสภาพอากาศ
1. หลังบ้านหรือโซนซักล้าง
เป็นจุดที่เหมาะสมที่สุด เพราะมักมีท่อน้ำดีและท่อน้ำทิ้งอยู่แล้ว การต่อท่อและเดินระบบทำได้ง่าย
2. ระเบียงหรือชานบ้าน
คอนโดหรือทาวน์โฮมมักเลือกวางเครื่องซักผ้าในระเบียง เพราะอากาศถ่ายเทดี และสามารถตากผ้าได้ในพื้นที่เดียวกัน
3. ใต้กันสาดหรือในโรงจอดรถ
หากพื้นที่หลังบ้านไม่พอ สามารถวางเครื่องซักผ้าใต้กันสาด หรือมุมใดมุมหนึ่งของโรงจอดรถได้ โดยควรมีที่กำบังแดดฝนให้เพียงพอ
ปัจจัยสำคัญก่อนติดตั้งเครื่องซักผ้านอกบ้าน
- ระบบน้ำเข้าและน้ำออก
- ต้องมีท่อน้ำดีและน้ำทิ้งที่สะดวก
- หากเป็นพื้นที่คอนกรีต ควรมีความลาดเอียงให้ระบายน้ำได้ดี
- แหล่งพลังงานไฟฟ้า
- ควรติดตั้งปลั๊กกันน้ำ (มีฝาปิด)
- เดินสายไฟด้วยท่อร้อยสายและติดตั้งเบรกเกอร์ย่อยเพื่อความปลอดภัย
- พื้นวางเครื่องซักผ้า
- ต้องแข็งแรงและรับน้ำหนักได้ดี
- ควรเสริมขาตั้งยางรองกันสั่นและกันชื้น
- การป้องกันแดดฝน
- ใช้หลังคาโปร่งแสง กันสาด หรือทำตู้คลุมเครื่องซักผ้า
- หากวางในที่โล่ง ควรเลือกตู้คลุมกันน้ำแบบ PVC หรือสเตนเลส
ไอเดียการจัดวางเครื่องซักผ้านอกบ้านให้สวยและเป็นระเบียบ
1. โซนซักผ้าสไตล์มินิมอล
เลือกใช้เครื่องซักผ้าสีขาวหรือเทา จัดคู่กับตู้ไม้หรือชั้นเหล็กเรียบ ๆ เพิ่มต้นไม้กระถางเล็ก ๆ เพื่อความสดชื่น
2. มุมซักผ้าสไตล์ลอฟต์
ใช้ผนังปูนเปลือยหรือกระเบื้องลายหินขัด เพิ่มชั้นเหล็กสีดำเก็บอุปกรณ์ซักผ้า เหมาะกับบ้านโมเดิร์น
3. โซนซักผ้าในสวนหลังบ้าน
วางเครื่องซักผ้าคู่กับเคาน์เตอร์ซักล้างแบบหินเทียม และจัดต้นไม้รอบ ๆ ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ
4. มุมซักผ้าแนวญี่ปุ่น (Japandi)
ตกแต่งด้วยโทนไม้ธรรมชาติและโทนขาวสะอาดตา เพิ่มบานประตูเลื่อนหรือม่านกันฝุ่น
5. โซนซักผ้าแนวรีสอร์ต
เหมาะกับบ้านพักตากอากาศ ใช้ไม้เทียมและกันสาดไม้ระแนง ให้บรรยากาศอบอุ่นและผ่อนคลาย
เคล็ดลับดูแลเครื่องซักผ้านอกบ้านให้ทนทาน
- คลุมเครื่องซักผ้าเมื่อไม่ได้ใช้งาน
- ใช้ผ้าคลุมกันน้ำ หรือกล่องกันฝนโดยเฉพาะ
- หลีกเลี่ยงการคลุมแน่นจนไม่มีอากาศถ่ายเท
- ตรวจสอบปลั๊กไฟและสายยางเป็นประจำ
- ป้องกันไฟฟ้ารั่วหรือสนิม
- ควรใช้ปลั๊กที่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ (RCD)
- ยกพื้นเครื่องซักผ้าให้สูงจากพื้น 5–10 ซม.
- ป้องกันน้ำท่วมขัง และช่วยให้อากาศไหลเวียนดี
- ล้างช่องกรองและถังซักอย่างสม่ำเสมอ
- ป้องกันกลิ่นอับและสิ่งสกปรกสะสม
วัสดุที่นิยมใช้ทำ “มุมซักผ้านอกบ้าน”
วัสดุ | ข้อดี | ข้อควรระวัง |
---|---|---|
กระเบื้องกันลื่น | ทำความสะอาดง่าย | ระวังรอยต่อสะสมคราบสบู่ |
คอนกรีตพิมพ์ลาย | ทนแดดฝน แข็งแรง | อาจแตกร้าวเมื่อเวลาผ่านไป |
ไม้เทียม (WPC) | ดูอบอุ่น สวยเหมือนไม้จริง | ควรติดตั้งในที่ไม่โดนน้ำตรงๆ |
สเตนเลส | ทนสนิม อายุการใช้งานยาว | ราคาสูงกว่าไม้หรือเหล็กทั่วไป |
ของตกแต่งที่ช่วยเพิ่มความสวยให้มุมซักผ้า
- ชั้นเก็บผงซักฟอกแบบแขวนผนัง
- ตะกร้าใส่ผ้าแบบมีล้อเลื่อน
- ต้นไม้ฟอกอากาศ เช่น ลิ้นมังกร หรือพลูด่าง
- โคมไฟ LED แบบกันน้ำ
- ม่านกันฝนโทนสีอ่อน
ข้อควรหลีกเลี่ยง
- ห้ามวางเครื่องซักผ้าในที่โดนแดดตรงตลอดวัน
- ไม่ควรใช้ปลั๊กพ่วงหรือสายไฟยาวเกินไป
- หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีละอองน้ำจากฝักบัวหรือก๊อกใกล้เคียง
- อย่าวางใกล้เตาแก๊สหรือแหล่งความร้อน
สรุป
การวางเครื่องซักผ้านอกบ้านไม่เพียงช่วยประหยัดพื้นที่ แต่ยังเพิ่มความสะดวกและความสวยงามให้บ้านได้ หากออกแบบอย่างเหมาะสมและดูแลอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นหลังบ้าน ระเบียง หรือโซนซักล้าง ก็สามารถสร้างมุมซักผ้าที่ทั้งใช้งานง่ายและมีสไตล์ได้ไม่ยาก