อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ ความหมาย วิธีคำนวณ และแนวทางปฏิบัติ

อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ

ภาษีเป็นหน้าที่สำคัญของผู้ประกอบการและประชาชนที่มีรายได้ตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในประเทศไทยมีภาษีหลายประเภทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ หนึ่งในนั้นคือ ภาษีธุรกิจเฉพาะ (Specific Business Tax – SBT) ซึ่งถือเป็นภาษีทางอ้อมที่เก็บจากผู้ประกอบธุรกิจเฉพาะบางประเภท

แม้ว่าภาษีธุรกิจเฉพาะจะไม่ได้มีผลกระทบในวงกว้างเท่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หรือภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจบางประเภท โดยเฉพาะในกลุ่มสถาบันการเงิน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และนายหน้า บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับภาษีธุรกิจเฉพาะในแง่มุมต่าง ๆ ตั้งแต่นิยาม อัตรา วิธีคำนวณ ไปจนถึงการยื่นแบบและข้อควรระวัง

ภาษีธุรกิจเฉพาะ คืออะไร?

ภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นภาษีที่จัดเก็บจากผู้ประกอบกิจการบางประเภทเท่านั้น โดยจะเก็บแทนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งหมายความว่า ผู้ที่อยู่ภายใต้การบังคับของภาษีธุรกิจเฉพาะจะ ไม่ต้องเสีย VAT แต่ต้องเสียภาษี SBT แทน

โดยหลักการแล้ว กิจการที่อยู่ในข่ายต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ คือกิจการที่มีลักษณะพิเศษ มีผลกำไรในรูปแบบเฉพาะ และยากต่อการควบคุมในลักษณะภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น รายได้จากดอกเบี้ย ค่านายหน้า หรือการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เป็นประจำ

กิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ

ตามพระราชกฤษฎีกา และกฎหมายว่าด้วยภาษีธุรกิจเฉพาะ กำหนดให้กิจการต่อไปนี้อยู่ในข่ายต้องเสียภาษี:

  • ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ
  • บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์
  • ธุรกิจประกันภัย (บางประเภท)
  • กิจการให้กู้ยืมเงิน หรือปล่อยสินเชื่อ
  • กิจการนายหน้าหรือผู้แทนในการซื้อขายสินค้า บริการ หรืออสังหาริมทรัพย์
  • กิจการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นครั้งคราว ที่ไม่เป็นวิสาหกิจ
  • กิจการการรับจำนำ
  • กิจการอื่นตามที่ประกาศในพระราชกฤษฎีกา

อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ

ตารางอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะที่สำคัญ

ประเภทกิจการอัตราภาษี (% ของรายรับ)ภาษีเทศบาลเพิ่มเติม (%)อัตรารวม (รวมภาษีเทศบาล)
ธนาคารพาณิชย์3.0%0.3%3.3%
กิจการนายหน้า/ผู้แทน3.0%0.3%3.3%
ขายอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่เป็นกิจการ3.0%0.3%3.3%
ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์12.5%1.25%13.75%
รับจำนำ2.5%0.25%2.75%
ให้กู้เงิน3.0%0.3%3.3%

หมายเหตุ: อัตราภาษีเทศบาลคือ 10% ของภาษีธุรกิจเฉพาะ (SBT) ที่ต้องเสีย

วิธีการคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะ

การคำนวณภาษีธุรกิจเฉพาะจะอิงจาก “รายรับรวม” โดยไม่นำรายจ่ายมาหักออกเหมือนภาษีเงินได้

สูตรการคำนวณ:

ภาษีธุรกิจเฉพาะ = รายรับ × อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ
ภาษีเทศบาล = ภาษีธุรกิจเฉพาะ × 10%
ภาษีรวมที่ต้องชำระ = ภาษีธุรกิจเฉพาะ + ภาษีเทศบาล

ตัวอย่าง:

บริษัทนายหน้ามีรายรับจากค่านายหน้าในเดือนมิถุนายน จำนวน 1,000,000 บาท

  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ = 1,000,000 × 3% = 30,000 บาท
  • ภาษีเทศบาล = 30,000 × 10% = 3,000 บาท
  • รวมภาษีที่ต้องชำระ = 33,000 บาท

การยื่นแบบภาษีธุรกิจเฉพาะ

แบบที่ใช้ยื่น:

ภ.พ.36 – ใช้สำหรับการยื่นภาษีธุรกิจเฉพาะ

กำหนดเวลายื่น:

ภายใน 15 วัน ของเดือนถัดไปจากเดือนที่มีรายรับ

วิธีการยื่น:

  • ยื่นด้วยตนเองที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่
  • ยื่นผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร (www.rd.go.th)

เอกสารประกอบ:

  • รายงานรายรับประจำเดือน
  • ใบเสร็จรับเงิน
  • เอกสารประกอบกิจกรรมที่เกิดรายได้

การวางแผนภาษีธุรกิจเฉพาะ

ผู้ประกอบการควรมีระบบบัญชีที่ชัดเจนและแยกรายรับที่อยู่ในข่าย SBT ออกจากรายได้ประเภทอื่น ๆ เพื่อการคำนวณที่ถูกต้อง ลดความเสี่ยงในการเสียเบี้ยปรับหรือค่าปรับทางภาษี

แนวทางที่ควรพิจารณา:

  • แยกบัญชีรายรับจากกิจการเฉพาะกับกิจกรรมปกติ
  • ใช้บริการที่ปรึกษาภาษีกรณีธุรกิจมีหลายประเภท
  • วางแผนทางภาษีล่วงหน้าโดยพิจารณาโครงสร้างธุรกิจ

ความแตกต่างระหว่าง SBT และ VAT

รายการภาษีธุรกิจเฉพาะ (SBT)ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
ประเภทกิจการเฉพาะกิจการบางประเภทแทบทุกกิจการที่ขายสินค้า/บริการ
ฐานภาษีรายรับรวมมูลค่าขายสินค้าหรือบริการ
สิทธิเคลมภาษีซื้อไม่มีมี
อัตราภาษีทั่วไป3% – 12.5%7%
ความถี่ในการยื่นแบบรายเดือนรายเดือน

บทลงโทษเมื่อไม่ปฏิบัติตาม

ผู้ประกอบการที่ละเลยไม่ยื่นแบบ หรือยื่นแบบล่าช้า จะต้องรับโทษตามกฎหมาย ดังนี้:

  • เบี้ยปรับทางภาษีสูงสุดไม่เกิน 2 เท่าของภาษีที่ต้องชำระ
  • เงินเพิ่มอีก 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่ค้าง
  • อาจมีบทลงโทษทางอาญาหากมีเจตนาเลี่ยงภาษี

คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการใหม่

หากคุณเริ่มต้นธุรกิจใหม่และไม่แน่ใจว่ากิจการของคุณเข้าข่ายต้องเสียภาษีประเภทใด ควร:

  • ปรึกษาสำนักงานสรรพากรพื้นที่
  • ตรวจสอบเอกสารจดทะเบียนและรูปแบบรายรับ
  • หมั่นตรวจสอบสถานะภาษีผ่านระบบออนไลน์ของกรมสรรพากร

สรุป

ภาษีธุรกิจเฉพาะ (SBT) แม้จะเป็นภาษีที่ใช้กับกิจการเฉพาะกลุ่ม แต่ก็มีความสำคัญในการบริหารจัดเก็บรายได้ของรัฐ และยังส่งผลโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจในกลุ่มสถาบันการเงิน นายหน้า หรือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การเข้าใจอัตราภาษี วิธีคำนวณ และขั้นตอนการยื่นแบบอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงทางกฎหมาย และทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

Share the Post:

รีวิวคอนโด อุดมสุข

รีวิวบ้าน อุดมสุข

อัพเดตล่าสุด