การเช่าบ้านไม่ว่าจะในฐานะ “ผู้ให้เช่า” หรือ “ผู้เช่า” ล้วนต้องมีความเข้าใจในข้อกฎหมายและรายละเอียดของ “สัญญาเช่าบ้าน” เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง การทำสัญญาให้ชัดเจนตั้งแต่แรกจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า สัญญาเช่าคืออะไร ต้องมีอะไรบ้าง และควรระวังเรื่องใดเพื่อให้การเช่าบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
สัญญาเช่าบ้านคืออะไร?
สัญญาเช่าบ้าน คือ ข้อตกลงระหว่าง “ผู้ให้เช่า” (เจ้าของบ้าน) กับ “ผู้เช่า” (ผู้ที่เช่าบ้าน) เพื่อใช้สิทธิครอบครองและใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน (ในที่นี้คือบ้าน) เป็นการชั่วคราว โดยมีการระบุเงื่อนไข เช่น ระยะเวลาเช่า ค่าเช่า หน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย และข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 537–571 ได้กำหนดหลักเกณฑ์ของสัญญาเช่าไว้อย่างชัดเจน และสามารถบังคับใช้ทางกฎหมายได้หากมีปัญหาเกิดขึ้น
สิ่งที่ควรมีในสัญญาเช่าบ้าน
การจัดทำสัญญาเช่าบ้านอย่างละเอียดเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายควรใส่ใจ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดหรือข้อโต้แย้งในอนาคต โดยสัญญาที่ดีควรมีองค์ประกอบดังนี้:
รายละเอียดของคู่สัญญา
- ชื่อ–นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขบัตรประชาชนของผู้ให้เช่าและผู้เช่า
- หากเป็นนิติบุคคล ควรระบุชื่อบริษัท ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี และผู้มีอำนาจลงนาม
รายละเอียดของทรัพย์สินที่ให้เช่า
- ที่อยู่ของบ้านที่เช่า
- ขนาดพื้นที่
- เลขที่โฉนด หรือสิ่งปลูกสร้างที่เกี่ยวข้อง
- เฟอร์นิเจอร์หรือทรัพย์สินอื่น ๆ ที่รวมอยู่ในการเช่า เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เตียง โต๊ะ ฯลฯ
ระยะเวลาเช่า
- วันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดของสัญญา
- ข้อกำหนดในการต่อสัญญา
- การแจ้งล่วงหน้าหากต้องการยกเลิกสัญญา
ค่าเช่าและการชำระเงิน
- จำนวนเงินค่าเช่ารายเดือน
- วันที่ครบกำหนดชำระ
- วิธีการชำระเงิน (เช่น โอนเข้าบัญชีธนาคาร)
- เบี้ยปรับกรณีชำระล่าช้า
เงินประกัน
- จำนวนเงินประกัน (มักอยู่ที่ 1–2 เดือนของค่าเช่า)
- เงื่อนไขการคืนเงินประกัน เช่น ต้องไม่มีความเสียหาย, ไม่ค้างค่าเช่า ฯลฯ
การบำรุงรักษา
- ใครรับผิดชอบค่าซ่อมแซมบ้าน
- การดูแลรักษาทรัพย์สินที่เช่าระหว่างสัญญา
- กรณีทรัพย์สินเสียหายจากการใช้งานหรืออุบัติเหตุ
การบอกเลิกสัญญา
- เงื่อนไขการยกเลิกก่อนกำหนด
- การแจ้งล่วงหน้าก่อนย้ายออก (มักกำหนดไว้ 30 วัน)
- ค่าปรับหรือการริบเงินประกันหากผิดสัญญา
ข้อตกลงเพิ่มเติม
- ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์
- ห้ามสูบบุหรี่ในบ้าน
- ห้ามดัดแปลง/ต่อเติมโครงสร้าง
- ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกพักอาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาต
สิทธิและหน้าที่ของผู้เช่าและผู้ให้เช่า
ผู้เช่า
- มีสิทธิใช้ประโยชน์ในบ้านตามที่ระบุในสัญญา
- ต้องดูแลรักษาทรัพย์สินให้อยู่ในสภาพดี
- ต้องชำระค่าเช่าให้ตรงเวลา
- ห้ามนำบ้านไปให้เช่าช่วงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ
ผู้ให้เช่า
- ต้องส่งมอบบ้านให้ผู้เช่าใช้งานในสภาพพร้อมใช้
- ไม่รบกวนหรือเข้าใช้ทรัพย์สินโดยพลการ
- มีสิทธิยกเลิกสัญญาหากผู้เช่าผิดเงื่อนไข
ข้อควรระวังในการทำสัญญาเช่าบ้าน
- อย่าเช่าโดยไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร
แม้จะรู้จักกันเป็นการส่วนตัวก็ควรทำสัญญาอย่างเป็นทางการ เพื่อป้องกันปัญหาและใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมาย - ตรวจสอบสิทธิในบ้านของผู้ให้เช่า
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ให้เช่าเป็นเจ้าของบ้านจริง หรือมีสิทธิปล่อยเช่า เช่น กรณีบ้านอยู่ระหว่างผ่อนกับธนาคาร อาจต้องแจ้งธนาคาร - กำหนดรายละเอียดอย่างชัดเจน
ระบุทุกอย่างให้ละเอียดเพื่อป้องกันการตีความผิด เช่น ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าขยะ ฯลฯ - อย่าชำระเงินล่วงหน้ามากเกินไป
ควรชำระค่าเช่าและเงินประกันตามที่กำหนดในสัญญา อย่าโอนเงินก่อนทำสัญญาอย่างเป็นทางการ
ตัวอย่างการคำนวณค่าใช้จ่ายเริ่มต้นในการเช่าบ้าน
สมมุติ:
- ค่าเช่าเดือนละ 10,000 บาท
- เงินประกัน 2 เดือน = 20,000 บาท
- ค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน = 10,000 บาท
รวมต้องชำระวันทำสัญญา: 30,000 บาท
การจดทะเบียนสัญญาเช่า: ต้องทำหรือไม่?
ตามกฎหมาย หากสัญญาเช่ามีระยะเวลา เกิน 3 ปี ต้องนำไปจดทะเบียนต่อกรมที่ดินจึงจะมีผลบังคับใช้ได้ตามกฎหมาย
แต่ถ้าสัญญาเช่ามีอายุ ไม่เกิน 3 ปี สามารถทำเป็นหนังสือสัญญาทั่วไปได้โดยไม่ต้องจดทะเบียน
กฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้อง
- ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 537–571
- พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร (ในกรณีอสังหาริมทรัพย์บางประเภท)
- ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา (เรื่องสัญญาเช่าที่อยู่อาศัยควบคุม)
เคล็ดลับสำหรับผู้ให้เช่า
- ตรวจสอบประวัติผู้เช่าเบื้องต้น
- ถ่ายภาพสภาพบ้านก่อนปล่อยเช่า
- แจ้งเงื่อนไขล่วงหน้าอย่างโปร่งใส
- เขียนข้อตกลงให้รัดกุม ป้องกันการผิดสัญญา
เคล็ดลับสำหรับผู้เช่า
- ตรวจสอบบ้านและอุปกรณ์ก่อนเข้าอยู่
- ขอสำเนาบัตรประชาชนและเอกสารการเป็นเจ้าของจากผู้ให้เช่า
- อย่าลงชื่อในสัญญาที่มีช่องว่างหรือไม่สมบูรณ์
- เก็บสำเนาสัญญาไว้กับตนเองอย่างน้อย 1 ฉบับ
บทสรุป
สัญญาเช่าบ้านถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การเช่า–ให้เช่าเป็นไปอย่างราบรื่น ป้องกันข้อพิพาท และรักษาสิทธิของทั้งสองฝ่าย การทำสัญญาให้ละเอียด มีความชัดเจน และยึดหลักกฎหมายอย่างถูกต้อง คือสิ่งที่ทุกฝ่ายควรให้ความสำคัญ
ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบ้านที่กำลังหาผู้เช่า หรือเป็นคนที่กำลังมองหาบ้านเช่า สัญญาเช่าบ้านที่ดีจะเป็นรากฐานให้การอยู่ร่วมกันดำเนินไปได้อย่างมั่นคงและยุติธรรม