SSF คืออะไร? กองทุนเพื่ออนาคต พร้อมสิทธิลดหย่อนภาษีที่คุณควรรู้

SSF คืออะไร

SSF คืออะไร?

SSF หรือ Super Savings Fund (กองทุนรวมเพื่อการออม) เป็นกองทุนรวมที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนออมเงินระยะยาว พร้อมให้สิทธิลดหย่อนภาษี โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา แทนที่กองทุน LTF (Long-Term Equity Fund) ซึ่งสิ้นสุดไปแล้ว

SSF ไม่เพียงแต่ส่งเสริมวินัยการออมในระยะยาวเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการวางแผนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จุดเด่นของกองทุน SSF

  • ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี
  • ถือครองขั้นต่ำ 10 ปีเต็ม นับจากวันที่ซื้อ
  • เลือกลงทุนได้หลากหลาย เช่น หุ้น ตราสารหนี้ หรือกองทุนรวมผสม
  • ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอาชีพหรือรายได้ ทุกคนสามารถลงทุนได้
  • ไม่มีภาระภาษีเมื่อขายคืนหลังครบกำหนด

เงื่อนไขการลดหย่อนภาษี SSF

  1. ลงทุนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ต่อปี
  2. วงเงินลดหย่อนได้สูงสุด 200,000 บาทต่อปี
  3. ต้องถือครองกองทุนอย่างน้อย 10 ปีเต็ม
  4. ห้ามขายคืนก่อนครบกำหนด ไม่เช่นนั้นจะถูกเรียกคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษี

SSF เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีรายได้ประจำ และต้องการลดหย่อนภาษีในแต่ละปี
  • คนที่วางแผนการเงินระยะยาวเพื่อเกษียณหรือเป้าหมายในอนาคต
  • ผู้ที่มีวินัยในการออม และสามารถถือเงินลงทุนได้นาน

ตัวอย่างการลดหย่อนภาษี

หากคุณมีรายได้ 800,000 บาทต่อปี
ลงทุนใน SSF เป็นจำนวน 200,000 บาท
คุณสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีในปีนั้นได้เต็มจำนวน
ส่งผลให้ฐานภาษีลดลงตามอัตราเงินได้สุทธิ

ความแตกต่างระหว่าง SSF กับ RMF

รายละเอียดSSFRMF
วงเงินลดหย่อนสูงสุด200,000 บาท30% ของรายได้ (รวมกับประกันบำนาญ ไม่เกิน 500,000 บาท)
ระยะเวลาถือครอง10 ปีเต็มถึงอายุ 55 ปี และลงทุนต่อเนื่อง 5 ปีขึ้นไป
ความยืดหยุ่นในการลงทุนสูงปานกลาง
วัตถุประสงค์ออมระยะยาววางแผนเกษียณ

ความเสี่ยงของการลงทุนใน SSF

แม้ SSF จะมีข้อดีเรื่องภาษี แต่การลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง โดยเฉพาะถ้าลงทุนในกองทุนที่เน้นหุ้นซึ่งมีความผันผวนสูง ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดของกองทุนที่เลือกไว้ เช่น

  • สินทรัพย์ที่กองทุนเน้นลงทุน
  • ผลตอบแทนย้อนหลัง
  • ค่าธรรมเนียมกองทุน
  • ผู้จัดการกองทุน

เลือก SSF อย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง

  1. รู้จักเป้าหมายของตัวเอง เช่น ออมเพื่อเกษียณ ออมเพื่อซื้อบ้านใน 10 ปีข้างหน้า
  2. พิจารณาความเสี่ยงที่รับได้ เช่น คนรับความเสี่ยงได้น้อย อาจเลือกกองทุนที่เน้นตราสารหนี้
  3. เปรียบเทียบกองทุนหลายแห่ง ทั้งเรื่องผลตอบแทน ค่าธรรมเนียม และความโปร่งใส
  4. กระจายความเสี่ยง อย่าลงทุนในกองทุนเดียวทั้งหมด

ขายคืน SSF ได้เมื่อไหร่?

SSF สามารถขายคืนเมื่อถือครองครบ 10 ปีเต็ม นับจากวันที่ซื้อ
ตัวอย่าง: หากซื้อกองทุนวันที่ 1 มกราคม 2568
สามารถขายคืนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2578 เป็นต้นไป

คำแนะนำก่อนลงทุน SSF

  • ตรวจสอบสิทธิ์การลดหย่อนภาษีจากรายได้สุทธิของตนเองก่อน
  • พิจารณาความสามารถในการถือครองยาว 10 ปี
  • อย่าเลือกกองทุนเพียงเพราะ “ลดหย่อนภาษี” ให้พิจารณาถึงคุณภาพกองทุนด้วย
  • ศึกษาหนังสือชี้ชวนก่อนตัดสินใจลงทุน

สรุป

SSF เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการออมระยะยาว และลดหย่อนภาษีในเวลาเดียวกัน เหมาะกับคนที่มีวินัยในการถือครอง และวางแผนอนาคตอย่างเป็นระบบ หากเลือกกองทุนได้ดีและเหมาะสมกับความเสี่ยงของตนเอง ก็สามารถทำให้การลงทุนใน SSF เป็นทั้งการออม และสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวได้

Share the Post:

รีวิวคอนโด อุดมสุข

รีวิวบ้าน อุดมสุข

อัพเดตล่าสุด