ประโยชน์และโทษของโอโซน ก๊าซที่ปกป้องโลกและทำร้ายมนุษย์ได้

ประโยชน์และโทษของโอโซน

เมื่อพูดถึงคำว่า “โอโซน” หลายคนอาจนึกถึงท้องฟ้าสีฟ้าสดใส หรืออากาศบริสุทธิ์หลังฝนตก
แต่ในความเป็นจริงแล้ว โอโซน (O₃) เป็นก๊าซชนิดหนึ่งที่มี “สองด้าน” — ด้านหนึ่งช่วยปกป้องโลกจากรังสีอันตราย อีกด้านหนึ่งกลับเป็นพิษต่อร่างกายหากอยู่ในที่ที่ไม่ควรอยู่

บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า โอโซนคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร มีประโยชน์อะไรบ้าง และเมื่อใดที่มันกลายเป็นภัยต่อสิ่งมีชีวิต

🔬 โอโซนคืออะไร?

โอโซน (O₃) คือก๊าซที่ประกอบด้วยออกซิเจน 3 อะตอม
มีลักษณะเฉพาะคือมีกลิ่นเฉพาะตัว คล้ายกลิ่นหลังฝนตกหรือกลิ่นเครื่องถ่ายเอกสาร
โดยทั่วไปแล้ว โอโซนมีอยู่ในบรรยากาศของโลกใน 2 ชั้นสำคัญ คือ

  1. โอโซนในชั้นสตราโตสเฟียร์ (Stratospheric Ozone)
    อยู่สูงจากพื้นโลกประมาณ 10–50 กิโลเมตร
    เป็น “โอโซนดี” เพราะช่วยดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากดวงอาทิตย์
  2. โอโซนในชั้นโทรโพสเฟียร์ (Tropospheric Ozone)
    อยู่ในระดับที่มนุษย์อาศัยอยู่
    เป็น “โอโซนร้าย” เพราะเป็นส่วนหนึ่งของมลพิษทางอากาศ (Smog) ที่เกิดจากการเผาไหม้และปฏิกิริยาเคมีในบรรยากาศ

🌞 ประโยชน์ของโอโซน

แม้จะมีชื่อเสียงในด้านมลพิษ แต่ในระดับบรรยากาศสูง โอโซนกลับมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตบนโลกใบนี้

1. ☀️ ปกป้องโลกจากรังสี UV

หน้าที่หลักของโอโซนคือ ดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV-B และ UV-C) จากดวงอาทิตย์
หากไม่มีโอโซนในชั้นบรรยากาศ มนุษย์และสัตว์จะได้รับรังสี UV โดยตรง ซึ่งอาจทำให้เกิด

  • มะเร็งผิวหนัง
  • ต้อกระจก
  • ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • ความเสียหายต่อพืชและสิ่งมีชีวิตในทะเล

2. 🌱 รักษาสมดุลของระบบนิเวศ

โอโซนช่วยควบคุมอุณหภูมิของชั้นบรรยากาศ ทำให้โลกมีอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิต
หากชั้นโอโซนบางลง จะทำให้รังสี UV ส่องถึงผิวน้ำมากขึ้น ส่งผลให้แพลงก์ตอนและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในทะเลลดจำนวนลง

3. 🧫 ใช้ประโยชน์ในทางอุตสาหกรรม

  • ใช้ใน การฆ่าเชื้อโรคในน้ำประปา แทนคลอรีน เพราะโอโซนสามารถทำลายเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อราได้ดี
  • ใช้ใน อุตสาหกรรมอาหาร เช่น ล้างผักผลไม้ หรือทำความสะอาดบรรจุภัณฑ์
  • ใช้ใน เครื่องฟอกอากาศและระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อกำจัดกลิ่นและสิ่งปนเปื้อน

4. 💧 กำจัดกลิ่นและฆ่าเชื้อโรคในอากาศ

โอโซนช่วยย่อยสลายสารอินทรีย์ในอากาศ เช่น กลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นอับ หรือเชื้อราในห้องปิด
จึงถูกนำมาใช้ในเครื่องฟอกอากาศรุ่นใหม่ (แต่ต้องควบคุมปริมาณอย่างเหมาะสม)

⚠️ โทษของโอโซน

แม้โอโซนจะมีประโยชน์มากมาย แต่หากอยู่ในระดับใกล้ผิวโลกหรือในปริมาณสูงเกินไป มันจะกลายเป็นมลพิษทางอากาศที่ร้ายแรงต่อสุขภาพ

1. 😮‍💨 ระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ

การสูดดมโอโซนเข้าร่างกายในระดับเข้มข้น จะทำให้เกิดอาการ เช่น

  • แสบจมูก คอ และตา
  • ไอ หายใจติดขัด
  • แน่นหน้าอก หอบหืดกำเริบ

โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก คนสูงอายุ และผู้ป่วยโรคปอด

2. 💔 ทำลายเนื้อเยื่อปอด

หากสัมผัสโอโซนในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อปอด ทำให้สมรรถภาพการหายใจลดลง

3. 🌾 ทำลายพืชและผลผลิตทางการเกษตร

โอโซนระดับพื้นดินสามารถทำให้ใบพืชไหม้ จุดสีน้ำตาล และลดการสังเคราะห์แสง
ส่งผลให้ผลผลิตลดลง โดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจ เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลือง

4. 🏙️ เป็นส่วนหนึ่งของหมอกควันพิษ (Photochemical Smog)

ในเมืองใหญ่ โอโซนมักเกิดจากปฏิกิริยาเคมีระหว่างแสงแดดกับสารมลพิษ เช่น ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) และสารประกอบอินทรีย์ระเหย (VOC)
จึงกลายเป็นส่วนประกอบของ หมอกควันพิษ ที่ทำให้อากาศขมุกขมัวและอันตรายต่อสุขภาพ

🔬 โอโซนเกิดขึ้นได้อย่างไร?

โอโซนสามารถเกิดขึ้นได้ทั้ง “โดยธรรมชาติ” และ “จากกิจกรรมของมนุษย์”

🔹 การเกิดตามธรรมชาติ

  • เกิดจาก แสงอัลตราไวโอเลตในชั้นบรรยากาศ ที่ทำให้ออกซิเจน (O₂) แตกตัวเป็นอะตอม แล้วรวมกันใหม่กลายเป็น O₃
  • เกิดหลังฝนตก เนื่องจากประกายไฟฟ้าในอากาศช่วยกระตุ้นการสร้างโอโซน จึงมีกลิ่นสดชื่นหลังฝน

🔹 การเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์

  • การเผาไหม้เครื่องยนต์รถยนต์ โรงงานอุตสาหกรรม หรือเตาเผาขยะ
  • การใช้สารเคมี เช่น น้ำยาทำความสะอาด หรือสเปรย์ต่าง ๆ ที่ปล่อยสาร VOC
    สิ่งเหล่านี้จะทำปฏิกิริยากับแสงแดด จนเกิดเป็นโอโซนในระดับพื้นดิน

🌡️ ปัญหา “รูโหว่โอโซน”

ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 นักวิทยาศาสตร์พบว่า “ชั้นโอโซนในบรรยากาศเริ่มบางลง” โดยเฉพาะบริเวณขั้วโลกใต้
สาเหตุหลักมาจากสารเคมีที่มนุษย์ใช้ในอดีต เช่น CFC (Chlorofluorocarbon) จากสเปรย์และตู้เย็น

CFC จะลอยขึ้นไปทำลายโมเลกุลของโอโซน ทำให้เกิด “รูโหว่โอโซน”
ผลลัพธ์คือ รังสี UV ส่องผ่านชั้นบรรยากาศลงมามากขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพมนุษย์และสิ่งแวดล้อมทั่วโลก

🌱 วิธีอนุรักษ์ชั้นโอโซน

แม้ปัจจุบันจะมีมาตรการลดการใช้สารทำลายโอโซนแล้ว แต่เราทุกคนยังมีส่วนช่วยได้

  1. หลีกเลี่ยงการใช้สเปรย์ที่มีสาร CFC หรือ VOC
  2. ลดการใช้พลังงานฟอสซิล เช่น ขับรถน้อยลง ใช้พลังงานสะอาด
  3. ปลูกต้นไม้ เพื่อช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และลดอุณหภูมิของโลก
  4. ดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า โดยเฉพาะตู้เย็นและแอร์ที่อาจมีสารทำลายโอโซน
  5. สนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่มีฉลาก “Ozone Friendly”

🧭 สรุป

โอโซนคือก๊าซที่มี “สองด้าน” —
ในชั้นบรรยากาศสูง มันคือ “เกราะป้องกันโลก” จากรังสีอันตราย
แต่ในระดับพื้นดิน มันคือ “มลพิษ” ที่เป็นพิษต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

ดังนั้น การใช้ประโยชน์จากโอโซนควรอยู่ในขอบเขตที่ปลอดภัย และเราทุกคนควรร่วมกันรักษาชั้นบรรยากาศ เพื่อให้โลกใบนี้ยังคงน่าอยู่สำหรับทุกชีวิต

☀️ “โอโซนดี…อยู่บนฟ้า แต่โอโซนร้าย…อยู่ใกล้ตัวเรา”

Share the Post:

รีวิวคอนโด อุดมสุข

รีวิวบ้าน อุดมสุข

อัพเดตล่าสุด