แอร์มีกลิ่นอับ แก้ไขอย่างไร? สาเหตุ วิธีแก้ และป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์

แอร์มีกลิ่นอับ

“เปิดแอร์ทีไรทำไมมีกลิ่นอับ?” เป็นคำถามที่เจ้าของบ้านหลายคนเจออยู่เสมอ กลิ่นไม่พึงประสงค์จากเครื่องปรับอากาศไม่เพียงแต่ทำให้บรรยากาศในห้องไม่น่าอยู่ แต่ยังอาจบ่งบอกถึงปัญหาการสะสมของเชื้อรา ฝุ่น และเชื้อโรค ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพทางเดินหายใจได้

บทความนี้จะอธิบายสาเหตุหลักของปัญหา แอร์มีกลิ่นอับ พร้อมทั้งวิธีแก้ไขและการป้องกัน เพื่อให้คุณสามารถกลับมามีอากาศเย็นสะอาดในบ้านได้อีกครั้ง

สาเหตุที่ทำให้แอร์มีกลิ่นอับ

  1. เชื้อราและเชื้อแบคทีเรียสะสมในคอยล์เย็น
    • ความชื้นจากการทำงานของแอร์เป็นแหล่งสะสมเชื้อราและแบคทีเรีย
    • เมื่อสะสมมากขึ้นจะปล่อยกลิ่นอับและกลิ่นเหม็นคล้ายผ้าเปียก
  2. ฟิลเตอร์กรองอากาศสกปรก
    • ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกอุดตัน ทำให้เกิดกลิ่นอับเมื่อแอร์ทำงาน
  3. ท่อน้ำทิ้งตันหรือมีน้ำขัง
    • ท่อน้ำทิ้งที่อุดตันจะทำให้เกิดน้ำขังภายในเครื่อง เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค
  4. สัตว์เล็กหรือเศษสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในแอร์
    • แมลงหรือตัวเล็ก ๆ เข้าไปตายในระบบ ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นรุนแรง
  5. แอร์ไม่ได้ล้างเป็นเวลานาน
    • หากไม่ได้ล้างแอร์นานกว่า 6 เดือน สิ่งสกปรกสะสมจะก่อให้เกิดกลิ่นอับ

วิธีแก้ไขปัญหาแอร์มีกลิ่นอับ

1. ล้างแผ่นกรองอากาศ (ฟิลเตอร์)

  • ถอดแผ่นกรองออกมาล้างด้วยน้ำสะอาด
  • ใช้แปรงขนนุ่มทำความสะอาดฝุ่น
  • ควรล้างอย่างน้อยเดือนละครั้ง

2. ตรวจสอบและล้างท่อน้ำทิ้ง

  • ใช้ลวดหรือลมแรงเป่าเพื่อไล่สิ่งอุดตัน
  • ป้องกันไม่ให้น้ำขังและมีกลิ่นหมักหมม

3. ใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรีย

  • เลือกสเปรย์ที่เหมาะสำหรับเครื่องปรับอากาศ
  • ฉีดพ่นที่คอยล์เย็นและช่องลม

4. ล้างแอร์โดยช่างมืออาชีพ

  • หากล้างเองไม่หาย ควรเรียกช่างเพื่อล้างทั้งระบบ
  • ควรทำปีละ 1–2 ครั้ง เพื่อรักษาประสิทธิภาพแอร์

5. ใช้น้ำยาดับกลิ่นแอร์ (เสริม)

  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่กัดกร่อนโลหะและปลอดภัย
  • ใช้เป็นการแก้ปัญหาชั่วคราว ไม่ควรพึ่งพาอย่างเดียว

วิธีป้องกันไม่ให้แอร์มีกลิ่นอับ

  1. ล้างฟิลเตอร์เป็นประจำ
    • ทำอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่น
  2. ปิดเครื่องและเปิดพัดลมต่อสักพัก
    • เพื่อไล่ความชื้นออกจากคอยล์เย็น ลดการเกิดเชื้อรา
  3. ใช้เครื่องฟอกอากาศร่วมกับแอร์
    • ช่วยลดฝุ่นและเชื้อโรคที่เข้าสู่ระบบแอร์
  4. นัดล้างแอร์กับช่างปีละ 1–2 ครั้ง
    • ล้างใหญ่ทั้งระบบเพื่อยืดอายุการใช้งานและป้องกันกลิ่น
  5. ตรวจสอบท่อน้ำทิ้งสม่ำเสมอ
    • ป้องกันไม่ให้อุดตันจนเกิดน้ำขังและกลิ่นเหม็น

ปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดจากแอร์มีกลิ่นอับ

  • ภูมิแพ้กำเริบ
  • ไอ จาม มีเสมหะ
  • หอบหืด
  • การติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อราและแบคทีเรีย

เคล็ดลับเพิ่มความหอมสดชื่นให้แอร์

  • ใช้ การ์ดดับกลิ่นสำหรับแอร์ ที่ปลอดภัย
  • หยด น้ำมันหอมระเหย บริเวณฟิลเตอร์ (ควรเลือกชนิดที่ไม่กัดกร่อน)
  • วาง ถ่านดูดกลิ่น ใกล้จุดที่แอร์ดูดอากาศเข้า

สรุป

แอร์มีกลิ่นอับเกิดจากการสะสมของความชื้น ฝุ่น เชื้อรา และสิ่งสกปรกภายในระบบ หากปล่อยไว้นานไม่เพียงทำให้บรรยากาศภายในห้องไม่น่าอยู่ แต่ยังอาจเสี่ยงต่อสุขภาพทางเดินหายใจของผู้อยู่อาศัย

การแก้ไขทำได้ทั้งการ ล้างฟิลเตอร์ ตรวจสอบท่อน้ำทิ้ง ใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อ และเรียกช่างล้างใหญ่ นอกจากนี้ การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันปัญหากลิ่นอับได้ในระยะยาว

Share the Post:

รีวิวคอนโด อุดมสุข

รีวิวบ้าน อุดมสุข

อัพเดตล่าสุด