ค่าส่วนกลางหมู่บ้าน ตามกฎหมาย เบี้ยปรับ และวิธีคำนวณที่ถูกต้อง

ค่าส่วนกลางหมู่บ้าน ตามกฎหมาย

ค่าส่วนกลางในหมู่บ้านจัดสรรถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ผู้พักอาศัยจำเป็นต้องชำระตามเงื่อนไขของนิติบุคคลหมู่บ้าน แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่อง อายุความค่าส่วนกลางหมู่บ้านจัดสรร และ การคิดเบี้ยปรับค่าใช้จ่ายส่วนกลาง บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจสิทธิ หน้าที่ และการบริหารจัดการค่าส่วนกลางอย่างถูกต้องและเป็นธรรม

ค่าส่วนกลางคืออะไร

ค่าส่วนกลางถือเป็นเงินที่เจ้าของบ้านหรือคอนโดฯ จ่ายให้แก่หมู่บ้านจัดสรรหรืออาคารชุดตามที่กำหนดในข้อบังคับนิติบุคคล หมายถึงการดูแลพื้นที่ส่วนกลาง เช่น สิ่งอำนวยความสะดวก ทางเดิน ถนน ไฟฟ้า น้ำประปา ระบบรักษาความปลอดภัย รวมถึงค่าแรงพนักงาน และการบำรุงรักษาระยะยาว

  • การกำหนดค่าส่วนกลาง มักกำหนดในเอกสารสัญญาซื้อขายหรือประกาศนิติบุคคล
  • ผู้ชำระ ได้แก่ เจ้าของบ้าน แยกตามพื้นที่ (เช่น ตารางวา/เมตร) หรืออัตราคงที่รายหน่วย
  • การใช้งาน เพื่อรักษาระดับมาตรฐานของหมู่บ้านให้มีความคุ้มค่าและน่าอยู่อาศัย

กฎหมายเกี่ยวกับค่าส่วนกลางหมู่บ้านจัดสรร

ค่าส่วนกลางได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายหลายฉบับ โดยเฉพาะ พ.ร.บ. หมู่บ้านจัดสรร พ.ศ. 2522 และแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึง พ.ร.บ.อาคารชุด พ.ศ. 2543 ซึ่งมีข้อกำหนดเรื่องการจัดเก็บค่าส่วนกลาง รายงานบัญชี และการประชุมเจ้าของร่วม ดังนี้:

  1. ห้ามปรับขึ้นค่าส่วนกลางโดยพลการหากไม่มีมติที่ประชุม
  2. ต้องจัดทำบัญชี รายจ่ายรายรับ และแถลงต่อที่ประชุมสามัญประจำปี
  3. สามารถบังคับใช้สิทธิหากเจ้าของไม่ชำระ เช่น เว้นสิทธิการใช้พื้นที่ส่วนกลาง หรือยึดทรัพย์หากมีมติที่ประชุมตามกฎหมาย

อายุความค่าส่วนกลางหมู่บ้านจัดสรร

อายุความ คือระยะเวลาที่ฝ่ายผู้มีสิทธิสามารถบังคับคดีเพื่อเรียกร้องค่าส่วนกลางได้ตามกฎหมายพลเรือนอายุความมี 2 แบบ:

1 อายุความทั่วไป 10 ปี

  • กรณีไม่มีข้อกำหนดเรื่องอายุความเฉพาะในสัญญา
  • หมายถึงค่าส่วนกลางที่ค้างชำระสามารถถูกฟ้องได้ภายในระยะเวลา 10 ปีนับจากวันครบกำหนดชำระ

2 อายุความสั้น 3 ปี

  • หากมีการตกลงระบุอายุความสั้นในสัญญา โดยเจ้าของร่วมในที่ประชุมอนุมัติ แต่ต้องพิสูจน์ว่าการกำหนดเป็นธรรม
  • หมายความว่าหากมีการกำหนดอายุความไว้ในข้อบังคับและผู้เข้าประชุมรับทราบเป็นลายลักษณ์อักษร การใช้สิทธิตามข้อกำหนดดังกล่าวจะมีผลผูกพัน

การคิดเบี้ยปรับค่าส่วนกลางหมู่บ้าน

หากเจ้าของบ้านไม่ชำระค่าส่วนกลางตามเวลาที่กำหนด นิติบุคคลสามารถเรียกเก็บ เบี้ยปรับ ตามเงื่อนไข ดังนี้:

  1. ตรวจสอบข้อบังคับนิติบุคคลว่ายอมรับอัตราเบี้ยปรับหรือไม่ เช่น 1% ต่อเดือน หรือ 15% ต่อปี
  2. การองค์กรอาจกำหนดอัตราสูงสุดไม่เกินที่กฎหมายกำหนดไว้
  3. คิดเบี้ยปรับแบบทบต้น (compound interest) หรือแบบง่าย (simple interest)
  4. นิติบุคคลอาจเรียกดอกเบี้ยล่าช้าเพิ่มเติมได้หากระบุในข้อบังคับ

ตัวอย่าง:
ค่าส่วนกลาง 2,000 บาท หากชำระล่าช้า 3 เดือน และมีเบี้ยปรับ 1% ต่อเดือน

  • เบี้ยปรับ = 2,000 × 1% × 3 เดือน = 60 บาท
  • รวมค้างชำระ = 2,060 บาท

หากคิดแบบทบต้นก็อาจสูงขึ้นเล็กน้อย

ขั้นตอนดำเนินการเมื่อเจ้าของไม่ชำระค่าส่วนกลาง

  1. ส่งหนังสือทวงถามอย่างเป็นทางการ (1–2 ครั้ง)
  2. ส่งแจ้งเตือนที่ประชุมผู้มีสิทธิทราบ
  3. ใช้มติที่ประชุมจัดกิจกรรมยกเว้นสิทธิ ได้แก่ การเข้าใช้พื้นที่ส่วนกลาง
  4. หากยังไม่ชำระและมีมติเรียกร้องให้ฟ้อง ให้ดำเนินคดีตามหลักกฎหมาย
  5. ยึดทรัพย์สินตามคำสั่งศาล (ในกรณีสุดท้ายและมีการยื่นคำร้อง)

สิทธิและหน้าที่ของเจ้าของบ้าน

1 สิทธิของเจ้าของบ้าน

  • ได้ใช้พื้นที่ส่วนกลางตามข้อตกลงและไม่มีการเลิกบริการหากชำระค่าส่วนกลางครบ
  • ได้รับสำเนาบัญชีรายรับ–รายจ่ายประจำปี
  • มีสิทธิให้ความเห็นและโหวตในที่ประชุมเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงค่าส่วนกลางหรือเบี้ยปรับ

2 หน้าที่ของเจ้าของบ้าน

  • ชำระค่าส่วนกลางตรงเวลา
  • ปฏิบัติตามข้อบังคับนิติบุคคล
  • เข้าร่วมประชุมสามัญประจำปี
  • เคารพสิทธิของเพื่อนบ้านและนิติบุคคล

ตัวอย่างนิติบุคคลใช้กฎค่าส่วนกลางจริง

นิติบุคคลหลายแห่งใช้มาตรการเพื่อให้เกิดการจ่ายค่าส่วนกลาง เช่น

  • ห้ามใช้คลับเฮาส์ สระว่ายน้ำ หากค้างค่าบริการ
  • ติดสัญญาณเตือนที่เขตจอดรถหรือใช้บัตรผ่านเข้า
  • ใช้มติเรียกฟ้องคดีหากค้างนานเกิน 6–12 เดือน

เคล็ดลับการจัดการค่าส่วนกลางอย่างมีประสิทธิภาพ

  1. ตรวจสอบข้อบังคับก่อนซื้อ และทำความเข้าใจในสัญญา
  2. ชำระค่าส่วนกลางให้ตรงตามรอบ (รายเดือน/รายปี) หรือจัดสรรในงบประมาณ
  3. เข้าร่วมประชุมเพื่อเข้าใจการใช้งบประมาณ และโหวตเรื่องอัตราเบี้ยปรับ
  4. หากมีปัญหาในการชำระ ขอเจรจานิติบุคคลล่วงหน้า
  5. เก็บหลักฐานการชำระ เช่น ใบเสร็จ เพื่อใช้ในการตรวจสอบการใช้งบ

สรุป

  • ค่าส่วนกลางเป็นเงินที่เจ้าของบ้านต้องชำระตามข้อบังคับที่ชัดเจน
  • อายุความ 10 ปี หากไม่มีการระบุหรือ 3 ปีหากมีการตกลงในข้อบังคับอย่างชัดเจน
  • เบี้ยปรับค่าส่วนกลางมีอัตราที่กำหนดตามข้อบังคับ และอาจคิดเป็นรายเดือน/รายปี
  • นิติบุคคลสามารถใช้มาตรการทางกฎหมายหากผู้พักอาศัยไม่ชำระ
  • เจ้าของบ้านควรมีความรับผิดชอบและเข้าใจสิทธิหน้าที่ เพื่อให้หมู่บ้านอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบเรียบร้อย
Share the Post:

รีวิวคอนโด อุดมสุข

รีวิวบ้าน อุดมสุข

อัพเดตล่าสุด