เวนคืนประกันสินเชื่อบ้าน MRTA คืออะไร
ประกัน MRTA (Mortgage Reducing Term Assurance) คือประกันชีวิตที่มักถูกทำพร้อมกับสินเชื่อบ้าน เพื่อคุ้มครองจำนวนหนี้ที่เหลือ หากผู้กู้เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ เท่ากับว่าไม่ทิ้งภาระสินเชื่อให้กับครอบครัว แม้กรมธรรม์นี้จะมีประโยชน์ แต่ก็สามารถขอ “เวนคืน” หรือยกเลิกเพื่อขอเงินคืนได้ในบางเหตุผลที่เหมาะสม
กรณีที่สามารถขอเวนคืน MRTA ได้
1. ยกเลิกภายใน 15 วัน
หากยกเลิกกรมธรรม์ภายใน 15 วันแรกที่ได้รับกรมธรรม์ จะสามารถขอคืนเงินเบี้ยประกันเต็มจำนวน (หักค่าดำเนินการเล็กน้อย)
2. ชำระหนี้บ้านครบก่อนหมดสัญญา
กรณีผ่อนชำระจนหมดก่อนระยะเวลาคุ้มครอง MRTA คุณสามารถขอเวนคืนเงินสดที่เหลืออยู่ตามมูลค่าของกรมธรรม์ที่ยังไม่ได้ใช้
3. รีไฟแนนซ์บ้านไปธนาคารใหม่
เมื่อเปลี่ยนธนาคารเพื่อรีไฟแนนซ์ คุณสามารถขอเวนคืนกรมธรรม์เดิม แล้วพิจารณาทำประกันใหม่กับธนาคารใหม่หรือตรวจสอบเงื่อนไขเพื่อเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์แทน
ขั้นตอนการขอเวนคืนกรมธรรม์ MRTA
- นำเล่มกรมธรรม์ ฉบับจริงพร้อมสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน
- หากเหตุผลเป็นการชำระหนี้หรือรีไฟแนนซ์ เพิ่มหลักฐานการชำระหนี้ (สเตทเมนท์ธนาคาร หรือใบปิดบัญชี)
- ติดต่อบริษัทประกันเพื่อขอแบบฟอร์มขอยกเลิก / เวนคืน
- กรอกข้อมูล แจ้งเหตุผล และยื่นเอกสาร
- บริษัทประกันจะตรวจสอบและส่งเงินคืนตามมูลค่าคงเหลือภายใน 7–14 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับบริษัท)
เงินคืนได้แค่ไหน? หักค่าปรับหรือไม่?
- กรณียกเลิกภายใน 15 วัน: ได้เงินคืนมากเทียบเท่าเบี้ยที่จ่าย (หักค่าธรรมเนียมเล็กน้อย)
- หากเวนคืนหลังจากนั้น: จะได้รับเงินคืนที่ลดลงตามระยะเวลาที่ผ่านไป เพราะทุนประกันลดลงเรื่อย ๆ ตามหนี้บ้านที่ลดลง คุณอาจได้เงินคืนประมาณ 20–30% ของเบี้ยที่จ่าย (ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์)
ตัวเลือกเมื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
A. เวนคืนแล้วทำประกัน MRTA ใหม่กับธนาคารใหม่
- ข้อดี: ได้โปรโมชันใหม่กับธนาคารใหม่ เช่น ดอกเบี้ยพิเศษ
- ข้อควรพิจารณา: เบี้ยประกันใหม่อาจสูงกว่าเดิม และอาจไม่ได้คืนเงินคุ้มค่า
B. ไม่เวนคืน แต่เปลี่ยนผู้รับผลประโยชน์เป็นธนาคารใหม่
- ข้อดี: ไม่ต้องจ่ายเบี้ยใหม่ หมดปัญหาการยกเลิก
- ข้อควรพิจารณา: ทุนประกันอาจไม่ครอบคลุมยอดกู้ใหม่ (หากวงเงินกู้เพิ่ม)
ข้อดีและข้อควรระวังของการเวนคืน
✅ ข้อดี
- ได้รับเงินคืนบางส่วน เพื่อนำไปใช้ต่อยอด
- ถ้าไม่ต้องการประกัน MRTA สามารถเลิกได้ทันที
- เมื่อต้องการเปลี่ยนประกันไปกับธนาคารใหม่ ก็ทำได้
⚠️ ข้อควรระวัง
- เงินคืนหลังจากปีแรกมักน้อยมาก และต้องหักค่าดำเนินการ
- เวนคืนไม่ควรทำเร็วเกินไป หากคุณยังต้องการความคุ้มครอง
- การเปลี่ยนหรือซื้อ MRTA ใหม่อาจไม่คุ้มถ้าเบี้ยใหม่สูงกว่า
ตัวอย่างเงินคืนจากกรณีสมมุติ
สมมติคุณซื้อประกัน MRTA วงเงิน 1 ล้านบาท และผ่อนครบ 7 ปี แต่ยังเหลือวงเงินกู้บางส่วน หากทำการเวนคืน ณ ปีที่ 7 คุณอาจได้เงินคืนประมาณ 20–30% ของเบี้ยที่เคยจ่าย ทั้งนี้แต่ละบริษัทประกันมีตารางมูลค่าเงินคืนต่างกัน จึงต้องดูตามกรมธรรม์จริงของคุณ
เมื่อไหร่ควรเวนคืน และเมื่อไหร่ควรเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์
กรณี | ควรเวนคืนหรือไม่ |
---|---|
ต้องการรีไฟแนนซ์ทันที | พิจารณาเวนคืนเพื่อใช้เงินก้อน |
ต้องการรักษาประกันเดิมไว้ | เปลี่ยนชื่อผู้รับประโยชน์ (ไม่เวนคืน) |
ถูกบังคับให้ทำ MRTA แต่ไม่อยากใช้ | ยกเลิกภายใน 15 วัน |
สรุป
ประกัน MRTA เป็นเครื่องมือที่ช่วยปกป้องครอบครัวจากหนี้สินสินเชื่อบ้าน แต่ไม่ได้บังคับให้ต้องทำ หากคุณไม่ต้องการความเสี่ยงเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนธนาคาร รีไฟแนนซ์ หรือคิดว่าเบี้ยประกันซ้ำซ้อนกับกรมธรรม์ที่มีอยู่ การ เวนคืนกรมธรรม์หรือ เปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์ เป็นทางเลือกที่ควรพิจารณา