เป็นเจ้าของบ้าน แต่ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน สิทธิที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ

เป็นเจ้าของบ้าน แต่ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน

เป็นเจ้าของบ้าน แต่ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน คืออะไร?

สถานการณ์ “เป็นเจ้าของบ้าน แต่ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน” มักเกิดขึ้นเมื่อมีการสร้างบ้านบนที่ดินที่ไม่ได้เป็นของตนเอง เช่น:

  • บ้านที่ปลูกบนที่ดินของพ่อแม่ ญาติ หรือผู้อื่น
  • บ้านเช่าระยะยาวที่สามารถปลูกสร้างหรือปรับปรุงอาคารได้
  • กรณีเช่าที่ดินระยะยาวจากรัฐ เอกชน หรือวัด
  • บ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ชัดเจน

ในทางกฎหมาย ถือว่าบุคคลหนึ่งสามารถเป็น “เจ้าของสิ่งปลูกสร้าง” ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของที่ดิน แต่ต้องมีข้อตกลงที่ชัดเจน

สิทธิและหน้าที่ของเจ้าของบ้านแต่ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน

1. มีสิทธิครอบครองบ้าน

คุณสามารถอยู่อาศัย ดัดแปลง ต่อเติม หรือขายบ้านได้ แต่ไม่สามารถขายที่ดิน เว้นแต่เจ้าของที่ดินจะตกลงด้วย

2. ไม่มีสิทธิครอบครองหรือโอนที่ดิน

บ้านที่ปลูกบนที่ดินผู้อื่น ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ หากไม่มีเอกสารสัญญาหรือหนังสือยินยอมจากเจ้าของที่ดิน

3. ขึ้นอยู่กับสัญญา/ความยินยอม

ความมั่นคงในการอยู่อาศัยขึ้นอยู่กับ “ความสัมพันธ์” และ “ข้อตกลง” หากไม่มีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร เจ้าของที่ดินสามารถบอกเลิกให้ย้ายออกได้ตามกฎหมาย

4. ไม่สามารถใช้เป็นหลักประกันเงินกู้ได้ง่าย

ธนาคารมักไม่อนุมัติการใช้บ้านที่ปลูกบนที่ดินผู้อื่นเป็นหลักทรัพย์ เว้นแต่มีสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปีขึ้นไปและมีหลักฐานชัดเจน

ปัญหาที่พบบ่อย

ปัญหาผลกระทบ
ไม่มีเอกสารยืนยันสิทธิเสี่ยงถูกให้ออกจากที่ดินทันที
ความขัดแย้งในครอบครัวผู้ให้ใช้ที่ดินเปลี่ยนใจหรือเสียชีวิต ทำให้สิทธิสั่นคลอน
ไม่สามารถขายบ้านต่อได้ง่ายผู้ซื้อกลัวความเสี่ยง ไม่สามารถขอสินเชื่อได้
ไม่สามารถพัฒนาทรัพย์สินปรับปรุงบ้านยาก หากไม่มีสิทธิ์แน่ชัดในระยะยาว

แนวทางแก้ไข / ป้องกัน

1. ทำสัญญาเช่าหรือใช้สิทธิอย่างเป็นทางการ

เช่น “สัญญาเช่าที่ดินระยะยาว” หรือ “หนังสือยินยอมปลูกบ้านบนที่ดิน”
ควรระบุเงื่อนไขอย่างชัดเจน เช่น ระยะเวลา สิทธิในการโอนบ้าน และการต่ออายุสัญญา

2. จดทะเบียนสิ่งปลูกสร้าง

หากปลูกบ้านใหม่ ให้ไปจดทะเบียนสิ่งปลูกสร้าง ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขต เพื่อให้มีหลักฐานสิทธิในตัวบ้าน

3. ขออนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้อง

การมีใบอนุญาตก่อสร้างที่ระบุว่าผู้ขออนุญาตคือเจ้าของสิ่งปลูกสร้าง (แม้ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน) จะช่วยให้มีน้ำหนักทางกฎหมาย

4. หลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ไม่เป็นทางการ

การปลูกบ้านบนที่ดินของแฟน คนรู้จัก หรือญาติห่างๆ โดยไม่มีเอกสาร ถือว่าเสี่ยงมาก

ตัวอย่างสถานการณ์จริง

  • คุณเอ ปลูกบ้านบนที่ดินของแม่ ไม่มีสัญญาใดๆ วันหนึ่งแม่เสียชีวิต ทายาทคนอื่นฟ้องให้รื้อบ้านออก เพราะไม่มีหลักฐานสิทธิ
  • คุณบี สร้างบ้านบนที่ดินของวัดโดยมีสัญญาเช่า 30 ปี ทำให้สามารถใช้บ้านอยู่อาศัยและโอนขายต่อได้ตามกฎหมาย

สรุป

การเป็นเจ้าของบ้านแต่ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน สามารถทำได้ แต่ต้องวางแผนและป้องกันความเสี่ยงด้วยเอกสารทางกฎหมายอย่างชัดเจน เพื่อความมั่นคงในการครอบครองและป้องกันปัญหาในอนาคต ทั้งผู้ปลูกบ้านและเจ้าของที่ดินควรตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษร และจดทะเบียนถูกต้องตามขั้นตอน เพื่อสิทธิที่มั่นคงของทั้งสองฝ่าย

Share the Post:

รีวิวคอนโด อุดมสุข

รีวิวบ้าน อุดมสุข

อัพเดตล่าสุด