หลายคนอาจเคยเห็นคราบดำ ๆ เขียว ๆ ตามผนังห้องน้ำ ฝ้าเพดาน หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ไม้ในบ้าน และคิดว่าเป็นเพียงคราบสกปรกธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วสิ่งเหล่านั้นอาจคือ เชื้อรา (Mold) ที่ซ่อนภัยอันตรายต่อทั้งสุขภาพของคนในบ้านและโครงสร้างของบ้านเอง
เชื้อราเจริญเติบโตได้ดีในที่อับชื้นและอุณหภูมิไม่สูงนัก ประเทศไทยซึ่งมีสภาพอากาศร้อนชื้นจึงเอื้อต่อการเกิดเชื้อราอย่างมาก หากไม่จัดการให้ถูกวิธี อาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ทำให้บ้านเสียหายและเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง
เชื้อราคืออะไร?
เชื้อราเป็นจุลินทรีย์ชนิดหนึ่งที่อยู่ในกลุ่ม ฟังไจ (Fungi) สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นและอินทรียวัตถุ เชื้อรามักปรากฏในรูปของคราบสีดำ เขียว ขาว หรือเหลือง และแพร่กระจายโดยการสร้าง สปอร์ (spores) ที่ล่องลอยในอากาศ
สาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราในบ้าน
- ความชื้นสะสม
- ห้องน้ำ ห้องครัว หรือบริเวณที่มีน้ำรั่วซึม
- ฝนสาดหรือหลังคารั่ว
- การระบายอากาศไม่ดี
- ห้องที่ปิดทึบ ไม่มีหน้าต่างหรือช่องลม
- การใช้เครื่องปรับอากาศโดยไม่ถ่ายเทอากาศ
- วัสดุที่อุ้มน้ำ
- ไม้ กระดาษ หรือผ้า เมื่อโดนความชื้นมักเกิดเชื้อราได้ง่าย
เชื้อราในบ้านพบบ่อยที่ไหนบ้าง?
- ผนังและฝ้าเพดาน โดยเฉพาะห้องน้ำ
- ใต้พรม เฟอร์นิเจอร์ไม้ และตู้เสื้อผ้า
- ห้องครัว อ่างล้างจาน และบริเวณท่อน้ำ
- เครื่องปรับอากาศและท่อแอร์
อันตรายของเชื้อราในบ้าน
- ผลต่อสุขภาพ
- ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ไอ จาม น้ำมูกไหล
- อาการหอบหืดกำเริบ
- การติดเชื้อราในปอด (กรณีผู้มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ)
- ระคายเคืองตา ผิวหนัง
- ผลต่อโครงสร้างบ้าน
- ทำให้ไม้บวม ผุพัง
- ทำให้สีทาผนังลอกล่อน
- ลดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์
วิธีสังเกตว่าในบ้านมีเชื้อรา
- เห็นคราบสีดำ เขียว หรือขาวตามผนังหรือเพดาน
- มีกลิ่นอับชื้นคล้ายกลิ่นดิน
- คนในบ้านมีอาการแพ้หรือหายใจลำบากบ่อย ๆ
- พบคราบราที่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ
วิธีป้องกันเชื้อราในบ้าน
- ควบคุมความชื้น
- เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
- ใช้เครื่องลดความชื้น (Dehumidifier)
- แก้ไขแหล่งน้ำรั่วซึม
- ตรวจสอบท่อประปา หลังคา และผนังรั่ว
- เลือกใช้วัสดุทนชื้น
- สีทาผนังชนิดกันเชื้อรา
- เฟอร์นิเจอร์ที่ทนความชื้น
- ทำความสะอาดสม่ำเสมอ
- เช็ดคราบน้ำและความชื้นในห้องน้ำและครัว
- ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา
วิธีจัดการและกำจัดเชื้อรา
- ใช้สารธรรมชาติ
- น้ำส้มสายชู: เช็ดคราบราแล้วทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงก่อนล้างออก
- เบกกิ้งโซดา: โรยหรือผสมน้ำเช็ดคราบรา
- ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราโดยเฉพาะ
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
- ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ
- ล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 1–2 ครั้ง
- เรียกผู้เชี่ยวชาญ
- ในกรณีเชื้อราลุกลามมาก ควรใช้บริการกำจัดเชื้อราโดยเฉพาะ
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเชื้อราในบ้าน
- เข้าใจผิด: เชื้อรามีแต่ในห้องน้ำ
✅ ความจริง: เชื้อราสามารถเกิดได้ทุกที่ที่มีความชื้น เช่น ห้องนอน ห้องครัว ตู้เสื้อผ้า - เข้าใจผิด: ทำความสะอาดคราบราแล้วจบ
✅ ความจริง: หากไม่แก้สาเหตุ เช่น น้ำรั่ว ความชื้น เชื้อราจะกลับมาอีก - เข้าใจผิด: เชื้อราไม่อันตราย
✅ ความจริง: เชื้อราส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพและโครงสร้างบ้าน
เชื้อราในบ้านกับเด็กและผู้สูงอายุ
กลุ่มเหล่านี้มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าคนทั่วไป จึงเสี่ยงได้รับผลกระทบจากเชื้อรามากกว่า เช่น การติดเชื้อทางเดินหายใจหรือภูมิแพ้รุนแรง
สรุป
เชื้อราในบ้านไม่ใช่แค่ปัญหาความสกปรก แต่คือภัยเงียบที่กระทบต่อสุขภาพและบ้านของคุณ หากพบคราบเชื้อราควรรีบแก้ไขต้นเหตุและทำความสะอาดอย่างถูกวิธี การดูแลบ้านให้โปร่ง แห้ง และสะอาดอยู่เสมอจะช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้บ้านของคุณน่าอยู่ ปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว