เชื้อราในบ้าน อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม วิธีป้องกันและกำจัดอย่างถูกต้อง

เชื้อราในบ้าน

หลายคนอาจเคยเห็นคราบดำ ๆ เขียว ๆ ตามผนังห้องน้ำ ฝ้าเพดาน หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ไม้ในบ้าน และคิดว่าเป็นเพียงคราบสกปรกธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วสิ่งเหล่านั้นอาจคือ เชื้อรา (Mold) ที่ซ่อนภัยอันตรายต่อทั้งสุขภาพของคนในบ้านและโครงสร้างของบ้านเอง

เชื้อราเจริญเติบโตได้ดีในที่อับชื้นและอุณหภูมิไม่สูงนัก ประเทศไทยซึ่งมีสภาพอากาศร้อนชื้นจึงเอื้อต่อการเกิดเชื้อราอย่างมาก หากไม่จัดการให้ถูกวิธี อาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ทำให้บ้านเสียหายและเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง

เชื้อราคืออะไร?

เชื้อราเป็นจุลินทรีย์ชนิดหนึ่งที่อยู่ในกลุ่ม ฟังไจ (Fungi) สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นและอินทรียวัตถุ เชื้อรามักปรากฏในรูปของคราบสีดำ เขียว ขาว หรือเหลือง และแพร่กระจายโดยการสร้าง สปอร์ (spores) ที่ล่องลอยในอากาศ

สาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราในบ้าน

  1. ความชื้นสะสม
    • ห้องน้ำ ห้องครัว หรือบริเวณที่มีน้ำรั่วซึม
    • ฝนสาดหรือหลังคารั่ว
  2. การระบายอากาศไม่ดี
    • ห้องที่ปิดทึบ ไม่มีหน้าต่างหรือช่องลม
    • การใช้เครื่องปรับอากาศโดยไม่ถ่ายเทอากาศ
  3. วัสดุที่อุ้มน้ำ
    • ไม้ กระดาษ หรือผ้า เมื่อโดนความชื้นมักเกิดเชื้อราได้ง่าย

เชื้อราในบ้านพบบ่อยที่ไหนบ้าง?

  • ผนังและฝ้าเพดาน โดยเฉพาะห้องน้ำ
  • ใต้พรม เฟอร์นิเจอร์ไม้ และตู้เสื้อผ้า
  • ห้องครัว อ่างล้างจาน และบริเวณท่อน้ำ
  • เครื่องปรับอากาศและท่อแอร์

อันตรายของเชื้อราในบ้าน

  1. ผลต่อสุขภาพ
    • ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ไอ จาม น้ำมูกไหล
    • อาการหอบหืดกำเริบ
    • การติดเชื้อราในปอด (กรณีผู้มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ)
    • ระคายเคืองตา ผิวหนัง
  2. ผลต่อโครงสร้างบ้าน
    • ทำให้ไม้บวม ผุพัง
    • ทำให้สีทาผนังลอกล่อน
    • ลดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์

วิธีสังเกตว่าในบ้านมีเชื้อรา

  • เห็นคราบสีดำ เขียว หรือขาวตามผนังหรือเพดาน
  • มีกลิ่นอับชื้นคล้ายกลิ่นดิน
  • คนในบ้านมีอาการแพ้หรือหายใจลำบากบ่อย ๆ
  • พบคราบราที่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ

วิธีป้องกันเชื้อราในบ้าน

  1. ควบคุมความชื้น
    • เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
    • ใช้เครื่องลดความชื้น (Dehumidifier)
  2. แก้ไขแหล่งน้ำรั่วซึม
    • ตรวจสอบท่อประปา หลังคา และผนังรั่ว
  3. เลือกใช้วัสดุทนชื้น
    • สีทาผนังชนิดกันเชื้อรา
    • เฟอร์นิเจอร์ที่ทนความชื้น
  4. ทำความสะอาดสม่ำเสมอ
    • เช็ดคราบน้ำและความชื้นในห้องน้ำและครัว
    • ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา

วิธีจัดการและกำจัดเชื้อรา

  1. ใช้สารธรรมชาติ
    • น้ำส้มสายชู: เช็ดคราบราแล้วทิ้งไว้ 1 ชั่วโมงก่อนล้างออก
    • เบกกิ้งโซดา: โรยหรือผสมน้ำเช็ดคราบรา
  2. ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราโดยเฉพาะ
    • เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง
  3. ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ
    • ล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 1–2 ครั้ง
  4. เรียกผู้เชี่ยวชาญ
    • ในกรณีเชื้อราลุกลามมาก ควรใช้บริการกำจัดเชื้อราโดยเฉพาะ

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเชื้อราในบ้าน

  • เข้าใจผิด: เชื้อรามีแต่ในห้องน้ำ
    ✅ ความจริง: เชื้อราสามารถเกิดได้ทุกที่ที่มีความชื้น เช่น ห้องนอน ห้องครัว ตู้เสื้อผ้า
  • เข้าใจผิด: ทำความสะอาดคราบราแล้วจบ
    ✅ ความจริง: หากไม่แก้สาเหตุ เช่น น้ำรั่ว ความชื้น เชื้อราจะกลับมาอีก
  • เข้าใจผิด: เชื้อราไม่อันตราย
    ✅ ความจริง: เชื้อราส่งผลเสียต่อทั้งสุขภาพและโครงสร้างบ้าน

เชื้อราในบ้านกับเด็กและผู้สูงอายุ

กลุ่มเหล่านี้มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าคนทั่วไป จึงเสี่ยงได้รับผลกระทบจากเชื้อรามากกว่า เช่น การติดเชื้อทางเดินหายใจหรือภูมิแพ้รุนแรง

สรุป

เชื้อราในบ้านไม่ใช่แค่ปัญหาความสกปรก แต่คือภัยเงียบที่กระทบต่อสุขภาพและบ้านของคุณ หากพบคราบเชื้อราควรรีบแก้ไขต้นเหตุและทำความสะอาดอย่างถูกวิธี การดูแลบ้านให้โปร่ง แห้ง และสะอาดอยู่เสมอจะช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้บ้านของคุณน่าอยู่ ปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว

Share the Post:

รีวิวคอนโด อุดมสุข

รีวิวบ้าน อุดมสุข

อัพเดตล่าสุด