การเช่าบ้านหรือคอนโดเป็นเรื่องที่หลายคนต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา คนทำงาน หรือครอบครัวที่ยังไม่พร้อมซื้อบ้าน แต่เมื่อพูดถึงการเช่าบ้าน สิ่งหนึ่งที่ผู้เช่ามักต้องเจอเสมอคือ “เงินประกัน” และ “ค่าเช่าล่วงหน้า” ซึ่งมักทำให้หลายคนสับสนว่าคือสิ่งเดียวกันหรือไม่ และต้องจ่ายเท่าไหร่กันแน่
ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจความหมายของ เงินประกัน และ ค่าเช่าล่วงหน้า ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร กฎหมายกำหนดไว้อย่างไร ใครมีสิทธิ์เรียกเก็บ และมีข้อควรระวังอะไรที่ผู้เช่าและผู้ให้เช่าควรรู้
เงินประกันคืออะไร?
เงินประกันการเช่า (Security Deposit) คือเงินที่ผู้เช่าต้องวางไว้กับผู้ให้เช่า เพื่อเป็นหลักประกันในกรณีที่ผู้เช่าไม่ทำตามสัญญา เช่น
- ทำห้องเสียหาย
- ไม่ชำระค่าเช่า
- ค้างค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าส่วนกลาง
เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่า หากผู้เช่าไม่มีการผิดสัญญา ผู้ให้เช่าต้องคืนเงินประกันเต็มจำนวน
ค่าเช่าล่วงหน้าคืออะไร?
ค่าเช่าล่วงหน้า (Advance Rent) คือค่าเช่าที่ผู้เช่าจ่ายล่วงหน้าก่อนเริ่มการอยู่อาศัย โดยปกติคือค่าเช่า 1 เดือน และจะถูกนับเป็นค่าเช่าของเดือนแรกที่ผู้เช่าเข้าพัก
เช่น ถ้าค่าเช่าเดือนละ 10,000 บาท ผู้เช่าอาจต้องจ่าย ค่าเช่าล่วงหน้า 10,000 บาท + เงินประกัน 20,000 บาท (2 เดือน) รวมเป็น 30,000 บาทก่อนเข้าอยู่
ความแตกต่างระหว่างเงินประกันและค่าเช่าล่วงหน้า
รายการ | เงินประกัน | ค่าเช่าล่วงหน้า |
---|---|---|
วัตถุประสงค์ | เพื่อค้ำประกันความเสียหาย/การผิดสัญญา | เพื่อเก็บค่าเช่าล่วงหน้า |
การคืนเงิน | คืนเมื่อสิ้นสุดสัญญา (ถ้าไม่มีความเสียหาย) | ไม่คืน เพราะถือว่าเป็นค่าเช่าที่จ่ายแล้ว |
จำนวนที่เรียกเก็บ | ปกติ 1–2 เดือน ตามกฎหมาย | ปกติ 1 เดือน |
สิทธิผู้ให้เช่า | ใช้หักค่าเสียหายหรือหนี้ค้างชำระ | ไม่มีสิทธิ์คืน เพราะเป็นค่าเช่าตามสัญญาแล้ว |
กฎหมายเกี่ยวกับเงินประกันและค่าเช่าล่วงหน้า
พระราชบัญญัติว่าด้วยการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย พ.ศ. 2561 กำหนดว่า
- เงินประกัน: ผู้ให้เช่าเรียกเก็บได้ไม่เกิน 2 เดือน
- ค่าเช่าล่วงหน้า: เรียกเก็บได้ไม่เกิน 1 เดือน
- เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่า ผู้ให้เช่าต้องคืนเงินประกันภายใน 7 วัน นับจากวันที่ผู้เช่าย้ายออก
กฎหมายนี้ใช้กับผู้ให้เช่าที่มีอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ตั้งแต่ 5 หน่วยขึ้นไป (เช่น เจ้าของคอนโดหลายห้อง) ส่วนกรณีรายย่อย อาจตกลงกันเองได้ แต่โดยธรรมเนียมแล้ว มักใช้กติกาเดียวกัน
ตัวอย่างสถานการณ์จริง
- กรณีปกติ:
นายเอ เช่าคอนโดเดือนละ 8,000 บาท จ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน (8,000) + เงินประกัน 2 เดือน (16,000) รวม 24,000 บาท ก่อนเข้าอยู่ - กรณีย้ายออกโดยไม่มีความเสียหาย:
เมื่อครบสัญญา นายเอย้ายออกโดยห้องไม่เสียหาย ไม่มีค่าน้ำไฟค้าง ผู้ให้เช่าต้องคืนเงินประกัน 16,000 บาทเต็มจำนวน - กรณีห้องเสียหาย:
ถ้าเฟอร์นิเจอร์เสียหาย ผู้ให้เช่าสามารถหักค่าเสียหายออกจากเงินประกันได้ เช่น หัก 5,000 บาท แล้วคืนส่วนที่เหลือ 11,000 บาท
ข้อควรระวังสำหรับผู้เช่า
- ตรวจสอบสัญญาเช่าให้ชัดเจน
ว่าเก็บเงินประกันและค่าเช่าล่วงหน้าแยกกันชัดเจน - เก็บหลักฐานการชำระเงิน
เช่น ใบเสร็จ สลิปโอนเงิน - ตรวจสอบห้องก่อนเข้าอยู่และก่อนย้ายออก
ควรถ่ายรูปหรือวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน - อย่ายอมจ่ายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
เช่น เงินประกันไม่ควรเกิน 2 เดือน
ข้อควรระวังสำหรับผู้ให้เช่า
- จัดทำสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษร
ระบุเงินประกัน ค่าเช่าล่วงหน้า และเงื่อนไขการคืนเงินให้ชัดเจน - ตรวจสอบสภาพห้องหลังผู้เช่าออก
หากมีความเสียหาย ต้องทำบันทึกรายละเอียดไว้ - คืนเงินประกันตรงเวลา
เพื่อป้องกันการฟ้องร้องหรือข้อพิพาททางกฎหมาย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: เงินประกันคืนเมื่อไหร่?
A: คืนภายใน 7 วันหลังสิ้นสุดสัญญา (กรณีมีกฎหมายเช่าอสังหาฯ คุ้มครอง)
Q: ผู้ให้เช่ามีสิทธิ์ไม่คืนเงินประกันได้หรือไม่?
A: มีสิทธิ์หักเฉพาะความเสียหายจริง หรือค่าใช้จ่ายค้างชำระเท่านั้น
Q: สามารถใช้เงินประกันแทนค่าเช่าเดือนสุดท้ายได้หรือไม่?
A: ไม่ควร เว้นแต่ผู้ให้เช่ายินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร
สรุป
เงินประกันและค่าเช่าล่วงหน้าแม้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้เช่าต้องจ่ายก่อนเข้าอยู่เหมือนกัน แต่มีวัตถุประสงค์ต่างกันชัดเจน เงินประกันคือหลักประกันความเสียหายและจะคืนเมื่อสัญญาสิ้นสุด ขณะที่ค่าเช่าล่วงหน้าคือค่าเช่าที่ชำระล่วงหน้าและไม่สามารถขอคืนได้ ผู้เช่าและผู้ให้เช่าจึงควรเข้าใจความแตกต่างและปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้การเช่าเป็นไปอย่างราบรื่นและยุติธรรม