สัญญารับเหมาก่อสร้าง ความสำคัญ เนื้อหาหลัก และข้อควรรู้ก่อนลงนาม

สัญญารับเหมาก่อสร้าง

“สัญญารับเหมาก่อสร้าง” เป็นเอกสารสำคัญที่ใช้ระหว่างเจ้าของโครงการและผู้รับเหมา มีผลทางกฎหมายและสามารถนำไปใช้ในชั้นศาลได้หากเกิดข้อพิพาท การทำสัญญาที่ดีจึงต้องมีความละเอียด ครอบคลุม และชัดเจน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงองค์ประกอบที่สำคัญ สิ่งที่ควรมีในสัญญา และข้อควรระวังต่าง ๆ อย่างครบถ้วน

สัญญารับเหมาก่อสร้างคืออะไร

สัญญารับเหมาก่อสร้างคือข้อตกลงระหว่างฝ่าย “เจ้าของงาน” กับ “ผู้รับเหมา” ซึ่งผู้รับเหมารับหน้าที่ดำเนินการก่อสร้างตามแบบแปลนที่ตกลงกัน โดยเจ้าของงานจะชำระค่าจ้างตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้

ประเภทของสัญญารับเหมาก่อสร้าง

  • สัญญาเหมาแบบเบ็ดเสร็จ (Lump Sum Contract)
    กำหนดราคาค่าก่อสร้างรวมทั้งหมดแน่นอน ผู้รับเหมาต้องควบคุมต้นทุนเอง หากเกินงบ จะรับภาระเอง
  • สัญญาแบบคิดตามปริมาณงาน (Unit Price Contract)
    เจ้าของงานจะจ่ายเงินตามปริมาณงานจริงที่ทำเสร็จ เช่น คิดเป็นตารางเมตร เมตร หรือชิ้น
  • สัญญาแบบค่าก่อสร้างบวกค่าบริหาร (Cost Plus Contract)
    เจ้าของงานจ่ายตามต้นทุนจริง และเพิ่มค่าดำเนินงานให้ผู้รับเหมา เป็นเปอร์เซ็นต์ที่ตกลงกัน
  • สัญญาแบบแบ่งงวด (Progressive Payment Contract)
    กำหนดให้ชำระเงินตามงวดงานที่เสร็จ เช่น งวดงานฐานราก, โครงสร้าง, หลังคา ฯลฯ

เนื้อหาหลักที่ควรมีในสัญญา

1. รายละเอียดคู่สัญญา

  • ชื่อ–นามสกุล/นิติบุคคล
  • ที่อยู่
  • หมายเลขโทรศัพท์
  • เลขประจำตัวผู้เสียภาษี (หากเป็นบริษัท)

2. ขอบเขตของงาน (Scope of Work)

  • รายละเอียดงานที่ต้องทำ เช่น บ้านพักอาศัย 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม.
  • แนบแบบแปลน สเปควัสดุ รายการ BOQ (Bill of Quantities)

3. ราคาค่าก่อสร้าง และวิธีการชำระ

  • ราคางานรวมทั้งหมด
  • แผนการชำระเงินแต่ละงวด เช่น 10% เมื่อวางเสาเข็มเสร็จ
  • วิธีการชำระ เช่น เงินสด โอนผ่านบัญชี

4. ระยะเวลาก่อสร้าง

  • วันที่เริ่มงาน
  • วันที่ต้องแล้วเสร็จ
  • การขยายเวลาหากเกิดเหตุสุดวิสัย

5. การปรับแก้ไขแบบ หรือเปลี่ยนวัสดุ

  • ต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร
  • ระบุผลกระทบต่อราคาและเวลา
  • กำหนดให้ผู้ว่าจ้างเป็นผู้อนุมัติ

6. เงื่อนไขการยกเลิกสัญญา

  • เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตาม
  • ระยะเวลาแจ้งเตือนล่วงหน้า
  • การเรียกร้องค่าเสียหาย

7. การรับประกันผลงาน

  • ปกติจะรับประกัน 1–2 ปี
  • ครอบคลุมโครงสร้าง รอยร้าว ระบบไฟฟ้า–ประปา ฯลฯ
  • ระบุช่องทางให้เรียกร้อง

8. เงื่อนไขการส่งมอบงาน

  • การตรวจรับงาน
  • รายการตรวจสอบ (Checklist)
  • การลงนามรับมอบงานอย่างเป็นทางการ

เอกสารแนบท้ายที่สำคัญ

  • แบบสถาปัตยกรรม / วิศวกรรม
  • BOQ รายการประมาณการวัสดุ
  • รูปถ่ายพื้นที่หน้างาน
  • แผนผังที่ดิน
  • แบบฟอร์มรับมอบงวดงาน

ข้อควรระวังในการทำสัญญารับเหมา

  • อย่าทำสัญญาแบบปากเปล่า
  • อย่าข้ามรายละเอียดงาน/วัสดุ แม้เพียงเล็กน้อย
  • ตรวจสอบความสามารถและผลงานของผู้รับเหมา
  • ห้ามจ่ายเงินล่วงหน้าทั้งหมดก่อนเริ่มงาน
  • ควรระบุค่าปรับหากงานล่าช้า เช่น วันละ 0.1–0.3% ของมูลค่างาน

ตัวอย่างข้อความบางส่วนที่ควรมีในสัญญา

“หากผู้รับเหมาดำเนินงานไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด และมิได้เกิดจากเหตุสุดวิสัย ผู้ว่าจ้างมีสิทธิเรียกค่าปรับในอัตรา…”

“การแก้ไขเปลี่ยนแปลงวัสดุใด ๆ ต้องได้รับความเห็นชอบเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ว่าจ้างก่อนดำเนินการ…”

ข้อดีของการมีสัญญาที่ชัดเจน

  • ป้องกันข้อโต้แย้ง และคดีความ
  • ใช้อ้างอิงเมื่อเกิดความล่าช้าหรือผิดเงื่อนไข
  • ทำให้ผู้ว่าจ้างและผู้รับเหมาเข้าใจขอบเขตงานตรงกัน
  • ช่วยให้การควบคุมงบประมาณแม่นยำยิ่งขึ้น

บทสรุป

สัญญารับเหมาก่อสร้างเปรียบเสมือนเครื่องมือปกป้องทั้งผู้ว่าจ้างและผู้รับเหมา การจัดทำอย่างรอบคอบ ระบุรายละเอียดชัดเจน และมีความเป็นธรรม จะช่วยให้โครงการดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ไม่มีข้อขัดแย้ง การใช้แบบฟอร์มสัญญามาตรฐาน หรือขอคำปรึกษาจากนักกฎหมายหรือสถาปนิก/วิศวกรก็จะยิ่งเสริมความมั่นใจให้กับทุกฝ่าย

Share the Post:

รีวิวคอนโด อุดมสุข

รีวิวบ้าน อุดมสุข

อัพเดตล่าสุด