สัญญาจะซื้อจะขายคอนโด คืออะไร? ทำไมต้องทำให้รัดกุม

สัญญาจะซื้อจะขายคอนโด

การซื้อขายคอนโดมิเนียมไม่ใช่แค่การโอนกรรมสิทธิ์แล้วจบ เพราะ “สัญญาจะซื้อจะขาย” คือเอกสารสำคัญที่มีผลทางกฎหมาย ซึ่งจะเป็นหลักฐานยืนยันการตกลงระหว่าง “ผู้ซื้อ” และ “ผู้ขาย” ว่าทั้งสองฝ่ายมีเจตนาจะซื้อขายกันจริง

แต่ในความเป็นจริง หลายคนกลับละเลย หรือเซ็นสัญญาโดยไม่เข้าใจเงื่อนไข ทำให้เกิดปัญหาภายหลัง เช่น คอนโดไม่สร้างเสร็จตามกำหนด โครงการเปลี่ยนสเปกวัสดุ หรือแม้แต่ผู้ซื้อถูกริบเงินจองเพราะผิดสัญญา

ดังนั้นก่อนจะลงนาม ควรทำความเข้าใจให้ชัดเจนว่า “สัญญาจะซื้อจะขายคอนโด” มีองค์ประกอบอะไรบ้าง และควรระวังเรื่องใดเพื่อป้องกันความเสียหาย

📄 สัญญาจะซื้อจะขายคอนโด คืออะไร

สัญญาจะซื้อจะขายคอนโด (Sale and Purchase Agreement: SPA)
คือ ข้อตกลงล่วงหน้า ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย ที่กำหนดรายละเอียดการซื้อขายคอนโด เช่น ราคาซื้อขาย กำหนดการชำระเงิน เงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์ และข้อผูกพันของแต่ละฝ่าย

โดยทั่วไปจะเกิดขึ้นใน 2 กรณีหลัก

  1. คอนโดที่ยังไม่สร้างเสร็จ (Pre-sale)
  2. คอนโดมือสอง (Resale)

ทั้งสองกรณีต้องมีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะจะใช้เป็นหลักฐานยืนยันเจตนาและรายละเอียดทางกฎหมาย

🧱 ทำไมสัญญาจะซื้อจะขายถึงสำคัญ

  1. เป็นหลักฐานทางกฎหมาย
    หากมีข้อพิพาท เช่น คอนโดสร้างล่าช้า หรือไม่ตรงตามแบบ สัญญาคือเอกสารอ้างอิงสำคัญในชั้นศาล
  2. ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงสเปกโดยพลการ
    ผู้ขายไม่สามารถเปลี่ยนวัสดุหรือขนาดห้องได้หากไม่เป็นไปตามสัญญา
  3. ควบคุมเงื่อนไขการชำระเงิน
    ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถวางแผนทางการเงินได้ชัดเจน และรู้ว่าต้องชำระเมื่อใด
  4. ลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกหรือยึดเงินจอง
    เพราะหากมีสัญญาชัดเจน จะสามารถใช้ต่อสู้ทางกฎหมายได้

📑 รายละเอียดที่ต้องมีในสัญญาจะซื้อจะขายคอนโด

  1. ข้อมูลผู้ซื้อและผู้ขาย
    ระบุชื่อ ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน / เลขนิติบุคคลให้ครบ
  2. รายละเอียดห้องชุด
    หมายเลขห้อง ชั้น พื้นที่ใช้สอย ขนาด (ตร.ม.) และรายละเอียดส่วนกลาง
  3. ราคาซื้อขายและเงื่อนไขการชำระเงิน
    • ราคาทั้งหมด
    • จำนวนเงินจอง
    • เงินดาวน์และงวดผ่อน
    • วันที่โอนกรรมสิทธิ์
  4. สิ่งที่ผู้ขายต้องส่งมอบ
    เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องปรับอากาศ หรือวัสดุตามแบบในใบแนบ
  5. กำหนดวันส่งมอบห้อง
    ระบุวันเดือนปีให้แน่ชัด พร้อมเงื่อนไขกรณีโครงการล่าช้า
  6. การผิดสัญญาและบทลงโทษ
    • หากผู้ซื้อไม่ชำระเงินตรงเวลา
    • หากผู้ขายไม่ส่งมอบห้องตามกำหนด
    • เงื่อนไขการยกเลิกสัญญา
  7. ค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์
    ระบุชัดว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าภาษี หรือค่าส่วนกลางล่วงหน้า
  8. การรับประกันหลังโอน
    เช่น รับประกันงานโครงสร้าง 5 ปี งานตกแต่ง 1 ปี

⚖️ ข้อควรระวังในการทำสัญญาจะซื้อจะขาย

  1. อ่านทุกข้ออย่างละเอียดก่อนเซ็น
    อย่ารีบ เพราะบางโครงการอาจซ่อนเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม เช่น การเปลี่ยนสเปกวัสดุ หรือการไม่คืนเงินจอง
  2. ตรวจสอบเอกสารแนบให้ครบ
    เช่น แบบแปลนห้อง ภาพวัสดุ เฟอร์นิเจอร์ที่ระบุในโปรโมชั่น
  3. ขอเวลาปรึกษาทนายก่อนลงนาม
    โดยเฉพาะคอนโดราคาสูง หรือโครงการที่มีเงื่อนไขซับซ้อน
  4. เก็บหลักฐานการชำระเงินทุกงวด
    เช่น ใบเสร็จโอนเงิน จดหมายยืนยันจากโครงการ

🏢 ตัวอย่างสถานการณ์จริง

“คุณบี” ซื้อคอนโดพรีเซลล์ราคา 2.8 ล้านบาท
โครงการกำหนดส่งมอบในเดือนมิถุนายน 2568 แต่เมื่อถึงเวลา คอนโดยังสร้างไม่เสร็จ และไม่มีการแจ้งเลื่อนอย่างเป็นทางการ

เมื่อคุณบีนำสัญญามาตรวจ พบว่าไม่มีระบุ “ค่าปรับกรณีส่งมอบล่าช้า” จึงไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้เต็มจำนวน

กรณีนี้เกิดจากการเซ็นสัญญาโดยไม่ตรวจเนื้อหาให้ละเอียด ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยมาก

🏛️ กฎหมายเกี่ยวกับสัญญาจะซื้อจะขายคอนโด

ตาม พระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522 และ ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา พ.ศ. 2555
กำหนดให้โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ขายห้องชุดต้องใช้ “แบบสัญญามาตรฐาน” ที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)

หากโครงการใช้สัญญาที่ไม่เป็นไปตามแบบมาตรฐาน ถือว่า “ไม่เป็นธรรม” และผู้บริโภคสามารถร้องเรียนได้

📋 เช็กลิสต์ก่อนเซ็นสัญญาจะซื้อจะขาย

✅ ตรวจสอบชื่อผู้ขายตรงกับใบอนุญาตโครงการ
✅ ดูราคาขายและโปรโมชั่นในโบรชัวร์ว่าตรงกับสัญญา
✅ เช็กแผนผังห้องและวัสดุที่แนบ
✅ ตรวจสอบกำหนดโอนและเงื่อนไขการคืนเงิน
✅ ดูชื่อผู้รับผิดชอบค่าโอนและค่าส่วนกลาง
✅ ตรวจสอบข้อกำหนดเรื่องการยกเลิกสัญญา

💬 สัญญาจะซื้อจะขายคอนโดมือสอง

ต่างจากคอนโดพรีเซลล์ตรงที่ไม่มีหน่วยงานควบคุมแบบฟอร์มสัญญา ดังนั้นผู้ซื้อควร

  • ตรวจสอบกรรมสิทธิ์จากโฉนดห้องชุด
  • ดูเอกสารหนี้สิน เช่น ภาระจำนองกับธนาคาร
  • ทำสัญญาโอนแบบมีพยาน หรือให้ทนายร่างให้เพื่อป้องกันปัญหา

📊 สรุปข้อดี-ข้อเสีย

ประเด็นข้อดีข้อควรระวัง
สัญญามาตรฐานปกป้องสิทธิผู้บริโภคต้องอ่านให้ครบทุกหน้า
คอนโดพรีเซลล์จองง่าย ผ่อนดาวน์น้อยเสี่ยงสร้างล่าช้า
คอนโดมือสองเห็นของจริงก่อนซื้อไม่มีแบบสัญญามาตรฐาน

💬 บทสรุป

“สัญญาจะซื้อจะขายคอนโด” คือหัวใจของการลงทุนและการอยู่อาศัยในระยะยาว
ผู้ซื้อทุกคนควรใช้เวลาอ่านให้ละเอียด ไม่ควรเซ็นตามคำพูดของเซลล์โดยไม่ตรวจสอบเนื้อหา

จุดสำคัญคือ

  • ตรวจสอบแบบแปลน วัสดุ และสิ่งที่โครงการต้องส่งมอบ
  • ระบุวันโอนกรรมสิทธิ์อย่างชัดเจน
  • ทำเอกสารทุกขั้นตอนเป็นลายลักษณ์อักษร

เพราะเมื่อเกิดปัญหา เอกสารคือสิ่งเดียวที่จะปกป้องสิทธิ์ของคุณได้

Share the Post:

รีวิวคอนโด อุดมสุข

รีวิวบ้าน อุดมสุข

อัพเดตล่าสุด