การเช่าที่ดินเปล่าเป็นการลงทุนที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจ การเกษตร หรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์การวางราคาเช่าให้เหมาะสมคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้ผู้ให้เช่าได้กำไรและผู้เช่ายังคุ้มค่า หลักสำคัญคือการเข้าใจว่า ราคาเช่าที่ดินเปล่า คิดยังไง และความหมายของคำว่า “เช่าที่ดินระยะยาว กี่ปี” มีผลอย่างไรต่อทั้งสองฝ่าย
แนวทางตั้งราคาเช่าที่ดิน
2.1 เปรียบเทียบตลาด
- รวบรวมข้อมูลราคาเช่าของที่ดินประเภทและทำเลใกล้เคียง
- เปรียบเทียบค่าเช่าแบบรายเดือนหรือรายปี เพื่อให้เห็นระดับราคาที่เป็นจริงในพื้นที่
2.2 ประเมินศักยภาพที่ดิน
- พิจารณาว่าที่ดินนั้นสามารถพัฒนาได้มากน้อยเพียงใด
- หากใกล้ถนนหลัก ใกล้แหล่งชุมชน หรือเหมาะกับพัฒนาเชิงพาณิชย์ เจ้าของที่ดินอาจตั้งราคาสูงกว่า
2.3 คิดค่าเช่าจากมูลค่าที่ดิน
- ใช้อัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ เช่น เทียบกับดอกเบี้ยเงินฝาก หรือพันธบัตรรัฐบาล
- สมมติว่าผลตอบแทนขั้นต่ำคือ 4–6% ต่อปี เช่น ที่ดินมูลค่า 1 ล้านบาท ค่าเช่ารายปีจึงควรประมาณ 40,000–60,000 บาท
2.4 สูตรแบบระยะยาว
- ถ้ามีการจ่ายค่าหน้าดิน (แป๊ะเจี๊ยะ) เช่น 20% ของมูลค่าที่ดิน เป็นเงินก้อน
- ค่าเช่ารายเดือน ≈ (ราคาประเมิน × ค่าหน้าดิน / จำนวนปีของสัญญา) ÷ 12
- วิธีนี้นิยมใช้กับสัญญาเช่าระยะยาว เช่น 10, 20 หรือ 30 ปี
เช่าที่ดินระยะยาว กี่ปี?
คำถามนี้สำคัญทั้งกับผู้ให้เช่าและผู้เช่าเพราะเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายและสิทธิใช้ประโยชน์ในระยะยาว:
- สัญญาระยะสั้น: น้อยกว่า 3 ปี ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน
- เช่าเกิน 3 ปี: ถือว่าเป็นสัญญาเช่าระยะยาว ต้องจดทะเบียนสัญญาเช่าที่ดิน
- ปัจจุบันนิยมในตลาดเช่าระยะยาวเช่น 10 ปี, 20 ปี, 30 ปี หรือสูงสุดถึง 99 ปี โดยมีข้อเสนอให้ขยายสัญญาถึง 99 ปี สำหรับกรณีพัฒนาอสังหาฯ หรือใช้ในโครงการขนาดใหญ่
การกำหนดระยะเวลาสัญญาชัดเจนช่วยให้ทั้งผู้ให้เช่าและผู้เช่ามั่นใจเรื่องความคุ้มค่าและวางแผนระยะยาวได้ดีขึ้น
ตัวอย่างการคำนวณเช่าที่ดินเปล่า
สมมติว่าที่ดินขนาด 1 ไร่ มูลค่าประเมิน 10,000,000 บาท
- ผู้ให้เช่าต้องการผลตอบแทนราว 5% ต่อปี
- ค่าเช่ารายปี = 10,000,000 × 5% = 500,000 บาท → เดือนละประมาณ 41,667 บาท
หากมีค่าหน้าดิน 20% = 2,000,000 บาท
- สมมติสัญญา 20 ปี
- ค่าเช่ารายเดือน = (2,000,000 ÷ 20) ÷ 12 ≈ 8,333 บาท + ค่าเช่าปกติรายปี
- รวมแล้วอาจคิดค่าเช่าเดือนละราว 50,000 บาท
หากเปลี่ยนเป็น เช่าที่ดินระยะยาว กี่ปี เช่น 30 ปี:
- ค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือนจะลดลงอย่างชัดเจน แต่ผู้เช่าต้องจ่ายค่าหน้าดินสูงขึ้นในตอนแรก
ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม
ค่าแป๊ะเจี๊ยะ (ค่าหน้าดิน)
- เป็นค่าชดเชยที่ผู้เช่าให้เจ้าของที่ไม่สามารถใช้ที่ดินได้ระหว่างระยะเวลาเช่า
- ปกติจะอยู่ระหว่าง 10–30% ของราคาประเมิน หรือแล้วแต่ตกลง
ค่าคอมมิชชั่นจากนายหน้า
- หากมีนายหน้าช่วยดำเนินการ อาจมีค่าคอม 2–5% ของค่าหน้าดิน หรืออาจรวมค่าเช่า 1–2 เดือน
เงื่อนไขสัญญา
- ระบุระยะเวลาเช่าให้ชัดเจน เช่น 5 ปี หรือ 20 ปี พร้อมเงื่อนไขขยายสัญญา
- ระบุสิทธิการใช้ประโยชน์ เช่น ห้ามก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือห้ามเปลี่ยนประเภทธุรกิจ
เปรียบเทียบสัญญาเช่าช่วงต่าง ๆ
ประเภทสัญญา | ระยะเวลา | จุดเด่น | ข้อพิจารณา |
---|---|---|---|
ระยะสั้น | ≤ 3 ปี | จดทะเบียนไม่จำเป็น ค่าเบื้องต้นต่ำ | ค่าเช่าอาจสูงกว่า ไม่มีสิทธิสัญญาขยาย |
ระยะยาว | > 3 ปี | ราคาต่อเดือนต่ำกว่า มีสิทธิใช้พื้นที่ยาว | ต้องจดทะเบียน ต้องจ่ายค่าหน้าดินสูง |
เคล็ดลับตั้งราคาเช่าให้ได้ผลดี
- ตรวจสอบตลาดจริง: ดูประกาศเช่าที่ดินในพื้นที่เดียวกัน
- พัฒนาศักยภาพที่ดิน: ถ้าที่ดินพร้อมถม สะดวกเดินทาง ค่าเช่าจะสูงขึ้น
- เจรจาระยะเวลา: สัญญาเช่าระยะยาวอาจให้ค่าเช่าเดือนถูกกว่า
- ชัดเจนเรื่องค่าหน้าดิน: ต้องตกลงล่วงหน้า ลดปัญหาในอนาคต
- สัญญาชัดเจน: รวมเงื่อนไขต่อเติม ห้ามโอนสิทธิ์ หรือย้ายผู้เช่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
สรุป
- การตั้ง ราคาเช่าที่ดินเปล่า คิดยังไง ขึ้นอยู่กับมูลค่าที่ดิน ผลตอบแทนที่ต้องการ ทำเล และระยะเวลาของสัญญา
- แนวคิดหลักคือการกำหนดค่าเช่าให้เหมาะสมทั้งกับเจ้าของและผู้เช่า โดยอาจใช้วิธีเปรียบเทียบตลาด หรือคิดจากมูลค่าทรัพย์สิน
- คำถาม “เช่าที่ดินระยะยาว กี่ปี” สำคัญมาก เพราะเกี่ยวข้องกับผลตอบแทน ค่าเช่าเฉลี่ย และเงื่อนไขสัญญา
- สิ่งสำคัญคือการตกลงให้ชัดเจนเรื่อง ค่าเช่า, ค่าหน้าดิน, ระยะเวลา, และเงื่อนไขสัญญา เพื่อให้การเช่าเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย