รั้วบ้านเป็นองค์ประกอบสำคัญที่หลายคนมองข้าม ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว รั้วไม่เพียงแต่ทำหน้าที่แบ่งขอบเขตทรัพย์สินและเพิ่มความปลอดภัยให้บ้านเท่านั้น แต่ยังส่งผลอย่างมากต่อภาพลักษณ์โดยรวมของบ้านอีกด้วย การเลือกรั้วจึงควรคำนึงถึงความสวยงาม ความแข็งแรง การดูแลรักษา รวมถึงงบประมาณด้วย
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 6 แบบรั้วบ้านยอดนิยมในประเทศไทย พร้อมข้อดี-ข้อเสีย เพื่อช่วยในการตัดสินใจให้เหมาะกับความต้องการของคุณ
รั้วบ้านมีกี่แบบ แบบไหนตรงสไตล์คุณ
เมื่อพูดถึงแบบรั้วบ้านแบบประหยัด หากแบ่งตามวัสดุก่อสร้างพบว่าปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย ขึ้นอยู่กับความชอบหรือประโยชน์ใช้สอยของผู้ที่อยู่ภายในบ้านเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความปลอดภัยของสมาชิกภายในบ้าน สัตว์เลี้ยง หรือการใช้งานอื่น ๆ
1. รั้วบ้านไม้
หากจะหาแบบรั้วบ้านแบบประหยัด สักหนึ่งแบบ รั้วไม้คงเป็นทางเลือกที่นิยมกันมาก โดยไม้ที่คนมักนำมาใช้จะเป็นไม้เนื้อแข็งที่ทนต่อสภาวะต่าง ๆ หรือแมลง เช่น ไม้แดง ไม้เต็ง นอกจากนี้ไม้ไผ่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนนำมาใช้เป็นวัสดุสำหรับทำรั้วเช่นกัน
ข้อดีของรั้วไม้: สามารถหาได้ง่าย ราคาถูก ออกแบบได้หลากหลายสไตล์ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ข้อเสียของรั้วไม้: ต้องดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ สภาพของไม้อาจเสื่อมไปตามสภาวะแวดล้อมและกาลเวลา เช่น มีรอยแตก เกิดการบวมน้ำหรือหดตัว การพุพัง และสีซีด
2. รั้วไม้เทียม
รั้วบ้านแบบประหยัด แบบที่ 2 คือ รั้วไม้เทียม หรือไม้สังเคราะห์ไฟเบอร์ซีเมนต์ (Fiber Cement) เป็นวัสดุที่เกิดจากการนำเส้นใยเซลลูโลส ปูนซีเมนต์ ทรายละเอียด และน้ำ มาผ่านกรรมวิธีอัดแท่งและอบให้เป็นรูปร่างลักษณะขนาดต่าง ๆ ตามการใช้งาน
ข้อดีของรั้วไม้เทียม: เป็นตัวเลือกหนึ่งของรั้วบ้านแบบต่าง ๆ ราคาถูกที่หาง่าย มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ สะดวกในการติดตั้ง ทนต่อสภาพอากาศและแมลงต่าง ๆ ทำความสะอาดง่าย ไม่ลามไฟ
ข้อเสียของรั้วไม้เทียม: มีขนาดและความยาวที่จำกัด ความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์อาจจะยังสู้ไม้จริงไม่ได้ มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าไม้จริงอาจหัก แตก และเสียหายได้

3. รั้วเหล็ก
รั้วเหล็กจะมีทั้งรูปแบบรั้วทึบ รั้วโปร่ง และรั้วเหล็กดัด วัสดุที่ใช้คือเหล็กที่ขึ้นรูปเป็นทรงต่าง ๆ หรือเหล็กดัดให้เป็นลวดลายต่าง ๆ ตามความต้องการ สามารถนำมาทำรั้วบ้านแบบประหยัดสวย ๆ ได้หลายรูปแบบ
ข้อดีของรั้วเหล็ก: ออกแบบได้หลากหลาย มีช่องว่างทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพทั้งภายในและภายนอกได้
ข้อเสียของรั้วเหล็ก: มีน้ำหนักมาก อาจเกิดสนิมได้ง่าย
4. รั้วปูน
รั้วบ้านแบบประหยัด แบบต่อมา คือ รั้วปูน หรือกำแพงปูน เป็นรั้วที่ก่อขึ้นมาจากอิฐ หรือการใช้แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป อาจเสริมความแข็งแรง ตกแต่งเพิ่มเติมโดยวิธีการต่าง ๆ เช่น ฉาบด้วยปูนแล้วขัดมันหรือทาสี ตกแต่งด้วยหินรูปทรงต่าง ๆ เป็นต้น
ข้อดีของรั้วปูน: ราคาถูก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ มีลักษณะทึบให้ความรู้สึกแข็งแรงและปลอดภัย ตกแต่งได้หลากหลายรูปแบบ ให้ความรู้สึกสวยเรียบหรู แบบมินิมอลในราคาประหยัด
ข้อเสียของรั้วปูน: ขั้นตอนการก่อสร้างต้องใช้ช่างผู้ชำนาญมาช่วยดูแลความเรียบร้อยอีกทั้งมีน้ำหนักมากจำเป็นต้องทำฐานรากที่มั่นคงทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม บ้านดูทึบและปิดกั้นลมที่จะพัดเข้ามาในบ้าน
5. รั้วต้นไม้
รั้วต้นไม้ เป็นการตกแต่งเขตบ้านด้วยต้นไม้นานาพรรณ อาจใช้เป็นไม้พุ่ม ไม้ยืนต้น หรือไม้เลื้อย พืชผักสวนครัว เหมาะสำหรับคนที่ชอบความร่มรื่นและธรรมชาติ
ข้อดีของรั้วต้นไม้: ช่วยเพิ่มความสดชื่นเป็นธรรมชาติ สามารถนำผลิตผลจากต้นไม้มาใช้อุปโภคบริโภคได้ ลดค่าใช้จ่าย นับเป็นหนึ่งในแบบรั้วบ้านสวย ๆ ราคาถูกที่คุ้มค่ามากทีเดียว
ข้อเสียของรั้วต้นไม้: ดูแลรักษายากและอาจช่วยในเรื่องของการป้องกันความปลอดภัยได้ไม่มากเท่าที่ควร เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษ และรั้วต้นไม้อาจสร้างปัญหารบกวนเพื่อนบ้านจนเกิดข้อพิพาทได้

6. รั้วผสม
รั้วบ้านแบบประหยัด รูปแบบสุดบ้ายที่นำมาเสนอ ได้แก่ รั้วผสม เป็นรั้วที่นำข้อดีหรือลักษณะของรั้วแต่ละประเภทมารวมกันตามความต้องการของเจ้าของบ้าน เช่น รั้วปูนเหล็กดัด หรือรั้วไม้เทียมกับพุ่มไม้
ข้อดีของรั้วผสม: สามารถเลือกวัสดุได้ตามความชอบ
ข้อเสียของรั้วผสม: อาจยุ่งยากในการสร้างและราคาที่ควบคุมได้ยาก
ลักษณะแบบรั้วบ้านที่ช่วยเสริมฮวงจุ้ย
ลักษณะที่ช่วยเสริมฮวงจุ้ย | รายละเอียด |
---|---|
รั้วบ้านและประตูต้องโปร่ง | พื้นที่โปร่งหรือช่องว่างควรมีประมาณ 50% ของแนวรั้วทั้งหมด ทำให้พลังชี่ไหลเวียนเข้าสู่บ้านได้ดี หากต้องใช้กำแพงทึบ ให้ติดช่องลมด้านบนแทน ห้ามเจาะช่องตรงกำแพง เพราะเชื่อว่าจะทำให้เก็บทรัพย์ไม่อยู่ พลังไม่มั่นคง อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการมองเห็นภายในบ้านจากภายนอก |
ประตูรั้วไม่ควรตรงกับประตูบ้านหรือเสาไฟฟ้า | การวางประตูรั้วตรงกับประตูบ้านจะทำให้พลังชี่ไหลออกนอกบ้านรวดเร็ว ควรสร้างเฉลียงหน้าบ้านหรือผนังสั้นบังทางตรงเพื่อชะลอพลังไม่ให้ไหลออกทันที หากมีเสาไฟฟ้าใกล้ประตู ให้ปลูกต้นไม้บังช่วยกรองพลังไฟฟ้าและให้ร่มเงา |
รั้วบ้านไม่ควรปล่อยให้สีซีดหรือชำรุด | สีรั้วและประตูที่สดใสช่วยเสริมพลังบวก ควรทาสีใหม่เป็นระยะเมื่อสีซีดจางหรือมีรอยแตกร้าว และติดไฟสว่างยามค่ำคืนเพื่อเพิ่มพลังหยาง ป้องกันภูตผีสิ่งไม่ดีเข้าสู่บ้าน |
ประตูรั้วต้องไม่สูงกว่ากำแพง และต้องมีสัดส่วนเหมาะสม | กำแพงควรอยู่ระหว่าง 1.4–2.0 เมตร ไม่สูงหรือต่ำเกินไป เพื่อสร้างความมั่นคง กรณีมีประตูสองบาน ให้ด้านซ้าย (มังกรเขียว) กว้างหรือใหญ่กว่าด้านขวา (เสือขาว) เพื่อเสริมความสมดุลของพลังหยิน–หยาง |
หากมีประตูใหญ่ไม่ควรสร้างประตูเล็กไว้ทั้งสองข้าง | การมีประตูเล็กทั้งสองฝั่งจะทำให้พลังชี่กระจาย ไม่สามารถรวมศูนย์ไว้ตรงจุดเดียว ควรสร้างประตูเล็กเพียงฝั่งเดียว ฝั่งซ้ายของประตูใหญ่ (เมื่อหันหน้าออกนอกบ้าน) เพื่อเสริมพลังทางด้านมังกรเขียว และช่วยเก็บกักทรัพย์ให้กับบ้าน |
ปลูกต้นไม้เป็นรั้วช่วยเสริมฮวงจุ้ย | รั้วต้นไม้หรือรั้วเขียวช่วยเสริมพลังชี่ กรองฝุ่น ดูดซับมลพิษ และสร้างบรรยากาศร่มรื่น แนะนำให้ปลูกต้นไม้ยืนต้นชนิดกลมกลืน เช่น ต้นไทร ต้นโมก หรือต้นไม้ดอกที่ออกดอกสวยงาม แต่หลีกเลี่ยงการปลูกใกล้กำแพงจนรากทำลายฐานราก |

กฎหมายรั้วบ้านที่ไม่ควรมองข้าม
จากข้างต้นเราทราบข้อมูลสำหรับเลือกแบบรั้วบ้าน จากวัสดุที่เหมาะสม มีลักษณะที่ดี และตรงกับสไตล์กับตัวเองแล้ว อย่าลืมให้ความสำคัญกับ “กฎหมายเกี่ยวกับรั้วบ้าน” ด้วย เพื่อป้องกันข้อพิพาทกับเพื่อนบ้าน
1. รั้วบ้านต้องไม่ล้ำเขตแนวที่ดินที่เป็นของตน
ในการกำหนดเขตที่ดินหมายถึงพื้นที่ใต้ดินและบนอากาศ ดังนั้นการสร้างฐานรั้วใต้ดิน การตั้งเสารั้วจึงไม่ควรเอียงล้ำแนวที่ดินของตนเองออกมา เพราะหากมีการฟ้องร้องจากเพื่อนบ้านเกิดขึ้น อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย แต่ถ้าในกรณีมีการสร้างรั้วร่วมกันกับเพื่อนบ้านให้แบ่งพื้นที่สำหรับสร้างรั้วและออกค่าใช้จ่ายคนละครึ่ง
2. รั้วบ้านไม่ควรสูงเกิน 3 เมตร
ถ้ารั้วบ้านอยู่ติดทางสาธารณะต้องมีความสูงของรั้วบ้านไม่เกิน 3 เมตร หากต้องการสร้างให้สูงเกิน 3 เมตรจะต้องเว้นระยะห่างจากเขตที่ดินไม่น้อยกว่าความสูงของรั้วที่จะสร้าง
3. รั้วบ้านที่อยู่มุมถนนต้องมีมุมหัก 135 องศา
หากบ้านคุณตั้งอยู่บริเวณมุมถนนที่ความกว้างถนนมากกว่า 3 เมตรขึ้นไป ต้องปาดมุมให้มีระยะไม่น้อยกว่า 4 เมตร และมีมุมหักไม่เกิน 135 องศา ทำมุมกับแนวถนนสาธารณะเป็นมุมเท่า ๆ กัน
4. การขออนุญาตสร้างรั้วบ้าน
การสร้างรั้วบ้านติดกับถนนหรือพื้นที่สาธารณะจะต้องขออนุญาตทุกครั้ง เนื่องจากรั้วบ้านถือว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างอย่างหนึ่ง แต่ในกรณีที่สร้างรั้วกันระหว่างที่ดินส่วนบุคคลหรือที่ดินของเอกชนไม่จำเป็นต้องขออนุญาต