ภาษีขายคอนโด ผู้ขายต้องจ่ายอะไรบ้าง? รวมค่าใช้จ่ายและวิธีคำนวณ

ภาษีขายคอนโด

ทำไมต้องรู้เรื่องภาษีขายคอนโด

เมื่อถึงเวลาต้องการขายคอนโด หลายคนมักคิดถึงเพียง “ราคาขาย” แต่สิ่งสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือ ภาษีและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะภาษีสามารถกินสัดส่วนเงินที่ได้รับไปไม่น้อย หากไม่เตรียมตัวล่วงหน้าอาจทำให้ได้เงินสุทธิน้อยกว่าที่คาดหวัง การเข้าใจภาษีขายคอนโดจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่กำลังจะขายหรือวางแผนลงทุนอสังหาริมทรัพย์

ภาษีขายคอนโดที่ผู้ขายต้องรับผิดชอบ

โดยทั่วไป ภาษีและค่าใช้จ่ายหลักในการขายคอนโดมีดังนี้

1. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย

กรมที่ดินจะหักภาษี ณ ที่จ่ายจากราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย แล้วแต่ราคาใดสูงกว่า คำนวณตาม อัตราก้าวหน้า ของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยพิจารณาจากราคาประเมินและจำนวนปีที่ถือครอง

2. ภาษีธุรกิจเฉพาะ

คิดในอัตรา 3.3% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย (แล้วแต่สูงกว่า) ผู้ขายต้องจ่ายหาก

  • ถือครองคอนโดไม่ถึง 5 ปี
  • หรือไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 1 ปี

แต่หากถือครองเกิน 5 ปี และมีชื่อในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี จะได้รับการยกเว้น

3. ค่าธรรมเนียมการโอน

ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถตกลงกันได้ว่าใครจะเป็นผู้จ่าย โดยปกติแล้วแบ่งคนละครึ่ง อัตราคิดที่ 2% ของราคาประเมินกรมที่ดิน

4. ค่าธรรมเนียมอากรแสตมป์

หากไม่เข้าเกณฑ์เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ต้องเสีย อากรแสตมป์ 0.5% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย (แล้วแต่สูงกว่า)

ตัวอย่างการคำนวณภาษีขายคอนโด

สมมติคุณขายคอนโดในราคา 3,000,000 บาท ราคาประเมินกรมที่ดินคือ 2,800,000 บาท

  • ค่าธรรมเนียมโอน: 2% ของ 3,000,000 = 60,000 บาท (แบ่งคนละครึ่ง ผู้ขายจ่าย 30,000 บาท)
  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ: 3.3% ของ 3,000,000 = 99,000 บาท (ถ้าถือครองไม่ถึง 5 ปี)
  • อากรแสตมป์: 0.5% ของ 3,000,000 = 15,000 บาท (กรณีได้รับการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ)
  • ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย: ประเมินตามฐานภาษี ซึ่งอาจอยู่ที่ประมาณ 30,000–80,000 บาท ขึ้นอยู่กับปีที่ถือครองและรายได้รวม

ปัจจัยที่มีผลต่อจำนวนภาษี

  • ระยะเวลาการถือครองคอนโด: ยิ่งถือครองนานยิ่งลดภาระภาษี
  • การมีชื่อในทะเบียนบ้าน: หากมีชื่อในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปีจะช่วยให้ไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
  • ราคาซื้อขายกับราคาประเมิน: กรมที่ดินจะเลือกใช้ราคาที่สูงกว่าเป็นฐานในการคำนวณ

วิธีวางแผนเพื่อลดภาษีขายคอนโด

  • วางแผนถือครองอย่างน้อย 5 ปีเพื่อเลี่ยงภาษีธุรกิจเฉพาะ
  • ย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านอย่างน้อย 1 ปีก่อนขาย
  • ตรวจสอบราคาประเมินกรมที่ดินล่าสุดก่อนตกลงซื้อขาย
  • ทำสัญญาและเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง เพื่อเลี่ยงปัญหาที่กรมที่ดิน

ขายคอนโดในนามบุคคลธรรมดากับนิติบุคคล

  • บุคคลธรรมดา: ภาษีหัก ณ ที่จ่ายคิดตามอัตราก้าวหน้า
  • นิติบุคคล: ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล 1% ของราคาขาย (ไม่ว่าจะขาดทุนหรือกำไร) และอาจมี VAT 7% หากเข้าข่าย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาษีขายคอนโด

  • ขายคอนโดขาดทุนต้องเสียภาษีไหม?
    ต้องเสีย เพราะกรมที่ดินใช้ราคาประเมินหรือราคาขายที่สูงกว่าเป็นฐานคำนวณ ไม่ใช่กำไรสุทธิ
  • ผู้ซื้อมีภาษีอะไรไหม?
    ผู้ซื้อจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมโอนร่วมกับผู้ขาย และอาจมีค่าจดจำนองหากกู้ธนาคาร
  • ขายคอนโดแบบผ่อนกับผู้ซื้อ ต้องเสียภาษีตอนไหน?
    ภาษีและค่าใช้จ่ายต้องชำระตอนโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมที่ดิน ไม่ใช่ตอนรับเงินครบทั้งหมด

สรุป

การขายคอนโดไม่ได้หมายถึงการได้เงินก้อนเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีภาษีและค่าใช้จ่ายที่ผู้ขายต้องเตรียมจ่าย โดยหลัก ๆ ได้แก่ ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย, ภาษีธุรกิจเฉพาะ, ค่าธรรมเนียมโอน และอากรแสตมป์ ซึ่งจำนวนภาษีขึ้นอยู่กับราคาประเมิน ระยะเวลาถือครอง และการมีชื่อในทะเบียนบ้าน การวางแผนภาษีก่อนขายจึงช่วยให้ผู้ขายได้รับเงินสุทธิเต็มที่และลดความเสี่ยงปัญหากับกรมที่ดิน

Share the Post:

รีวิวคอนโด อุดมสุข

รีวิวบ้าน อุดมสุข

อัพเดตล่าสุด