บ้านแลกเงิน คืออะไร? วิธีเปลี่ยนบ้านเป็นเงินสดเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง

บ้านแลกเงิน

บ้านแลกเงิน คืออะไร?

บ้านแลกเงิน หรือที่มักรู้จักในชื่อ “สินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน” เป็นสินเชื่อประเภทหนึ่งที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินให้บริการ โดยผู้กู้สามารถนำบ้าน ที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์อื่นที่ตนเองถือกรรมสิทธิ์ มาใช้ค้ำประกัน เพื่อแลกเป็นวงเงินกู้ ซึ่งสามารถนำไปใช้จ่ายตามความต้องการ เช่น ปิดหนี้บัตรเครดิต ใช้ในกิจการ หรือเป็นทุนการศึกษา

ลักษณะเด่นของบ้านแลกเงิน

  • ใช้บ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่เป็นหลักประกัน
  • ได้รับเงินก้อนหรือวงเงินหมุนเวียนโดยไม่ต้องขายบ้าน
  • ดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลหรือบัตรเครดิต
  • ระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี
  • สามารถกู้ได้ทั้งในนามบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล

บ้านแลกเงินเหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่ต้องการเงินสดก้อนใหญ่โดยไม่อยากขายบ้าน
  • ผู้ประกอบการหรือเจ้าของกิจการที่ต้องการเงินทุน
  • ผู้ที่มีบ้านปลอดภาระและต้องการใช้บ้านเพิ่มสภาพคล่อง
  • ผู้ที่มีภาระดอกเบี้ยสูงจากหนี้อื่น ๆ แล้วต้องการรีไฟแนนซ์

ประเภทสินทรัพย์ที่ใช้ได้

  1. บ้านเดี่ยว
  2. ทาวน์โฮม / ทาวน์เฮ้าส์
  3. คอนโดมิเนียม
  4. อาคารพาณิชย์
  5. ที่ดินเปล่า
  6. บ้านที่ผ่อนอยู่กับธนาคาร (บางกรณีสามารถทำเรื่องรีไฟแนนซ์ + ขอวงเงินเพิ่มได้)

เงื่อนไขทั่วไปของการกู้บ้านแลกเงิน

รายการรายละเอียดโดยทั่วไป
วงเงินกู้สูงสุด70–90% ของราคาประเมินหลักประกัน
อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นประมาณ 5–8% ต่อปี (ขึ้นกับโปรโมชันและสถาบันการเงิน)
ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 30 ปี
ผู้กู้ร่วมสามารถมีผู้กู้ร่วมได้ เพื่อเพิ่มวงเงิน
เอกสารที่ต้องใช้บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน โฉนดที่ดิน สลิปเงินเดือน ฯลฯ

ตัวอย่างสถานการณ์ที่บ้านแลกเงินช่วยได้

กรณีที่ 1: เจ้าของบ้านที่ไม่มีภาระผ่อน

นายเอ มีบ้านมูลค่า 4 ล้านบาท ไม่มีภาระผ่อน สามารถนำบ้านไปยื่นขอกู้บ้านแลกเงินได้วงเงินประมาณ 3 ล้านบาท โดยยังสามารถพักอาศัยในบ้านได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องชำระเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไข

กรณีที่ 2: ผู้มีภาระหนี้ดอกเบี้ยสูง

นางบีมีหนี้บัตรเครดิต 500,000 บาท ดอกเบี้ยสูงถึง 16% ต่อปี เธอใช้บ้านที่ตนเองเป็นเจ้าของไปทำเรื่องบ้านแลกเงิน วงเงิน 600,000 บาท ดอกเบี้ยเพียง 6% ต่อปี ทำให้เธอสามารถโปะหนี้บัตร และจ่ายค่างวดน้อยลง

ข้อดีของบ้านแลกเงิน

  • ดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล
  • วงเงินกู้สูงตามมูลค่าหลักประกัน
  • ยังคงสามารถพักอาศัยหรือใช้ประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ได้
  • ผ่อนได้ยาว นานสูงสุดถึง 30 ปี
  • มีตัวเลือกทั้งแบบเงินก้อนและวงเงินหมุนเวียน

ข้อควรระวัง

  • หากไม่สามารถผ่อนชำระได้ตามเงื่อนไข อาจถูกยึดหลักประกัน
  • วงเงินที่ได้ขึ้นอยู่กับราคาประเมิน ไม่ใช่ราคาตลาด
  • มีค่าธรรมเนียม เช่น ค่าประเมิน ค่าจดจำนอง ค่าประกันอัคคีภัย
  • ต้องศึกษารายละเอียดสัญญาให้ดี โดยเฉพาะเรื่องดอกเบี้ยและค่าปรับ

ธนาคาร/สถาบันการเงินที่ให้บริการบ้านแลกเงิน

  • ธนาคารออมสิน
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
  • ธนาคารกรุงไทย
  • ธนาคารกสิกรไทย
  • ธนาคารไทยพาณิชย์
  • ธนาคารทิสโก้
  • ธนาคารยูโอบี
  • บริษัทสินเชื่อที่อยู่นอกระบบธนาคาร (มีบ้าง แต่ต้องพิจารณาความน่าเชื่อถือ)

เอกสารที่ใช้ประกอบการขอกู้

  1. สำเนาบัตรประชาชน
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน
  3. โฉนดที่ดิน หรือเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์
  4. เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หรือรายการเดินบัญชี
  5. รูปถ่ายบ้าน
  6. หนังสือรับรองการทำงาน (ถ้ามี)

ขั้นตอนการดำเนินการ

  1. เตรียมเอกสารให้ครบ
  2. ยื่นคำขอสินเชื่อกับธนาคาร
  3. เจ้าหน้าที่ประเมินบ้านและกำหนดวงเงิน
  4. พิจารณาอนุมัติและแจ้งผล
  5. ทำสัญญาและรับเงิน

บ้านแลกเงินกับรีไฟแนนซ์ ต่างกันอย่างไร?

รายการบ้านแลกเงินรีไฟแนนซ์บ้าน
วัตถุประสงค์เปลี่ยนบ้านเป็นเงินก้อนเปลี่ยนเจ้าหนี้เดิมเพื่อลดดอกเบี้ย
ต้องมีบ้านผ่อนอยู่ไหมไม่จำเป็นต้องมีบ้านที่ผ่อนอยู่
ได้เงินเพิ่มไหมได้ (ถ้าผ่านเงื่อนไข)ได้ (กรณีมีวงเงินเหลือจากรีไฟแนนซ์)
ยังคงอยู่ในบ้านไหมได้ได้

สรุป

บ้านแลกเงินคือวิธีเพิ่มสภาพคล่องที่ปลอดภัยและมีต้นทุนต่ำกว่าหนี้รูปแบบอื่น เหมาะสำหรับคนที่มีอสังหาริมทรัพย์และต้องการนำมาใช้เป็นประโยชน์ทางการเงิน โดยไม่ต้องขายทรัพย์สินนั้นทิ้ง เพียงแค่ต้องวางแผนชำระเงินอย่างรอบคอบ และเข้าใจในเงื่อนไขสัญญาที่ทำกับสถาบันการเงิน

หากคุณมีบ้านเปล่าหรือทรัพย์สินอื่น ๆ ที่ไม่มีภาระ อาจพิจารณา “บ้านแลกเงิน” เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทางการเงินของคุณในระยะสั้นและยาว

Share the Post:

รีวิวคอนโด อุดมสุข

รีวิวบ้าน อุดมสุข

อัพเดตล่าสุด