ทุกปีเรามักได้ยินข่าวเกี่ยวกับ “น้ำทะเลหนุน” โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนและปลายปี ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลสูงกว่าปกติ ส่งผลให้หลายพื้นที่ริมแม่น้ำหรือใกล้ชายฝั่งเกิดน้ำท่วมขัง ทำให้การสัญจรลำบาก บ้านเรือนได้รับความเสียหาย และบางครั้งยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสุขภาพประชาชนด้วย
แต่แท้จริงแล้ว น้ำทะเลหนุนคืออะไร เกิดจากสาเหตุใด และเราจะป้องกันหรือรับมือได้อย่างไร? บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างละเอียด
น้ำทะเลหนุนคืออะไร?
น้ำทะเลหนุน หมายถึง ปรากฏการณ์ที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นมากกว่าปกติในช่วงเวลาหนึ่ง อันเนื่องมาจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ รวมถึงปัจจัยทางธรรมชาติและสภาพอากาศ เช่น ลมมรสุม ความกดอากาศ และภาวะโลกร้อน
โดยทั่วไป น้ำทะเลจะขึ้นลงตามรอบ น้ำขึ้น-น้ำลง อยู่แล้ว แต่เมื่อน้ำขึ้นสูงผิดปกติและดันเข้ามาในแม่น้ำหรือลำคลอง ก็จะทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำที่อยู่ใกล้ชายฝั่งหรือริมแม่น้ำ เรียกว่า “น้ำทะเลหนุน”
สาเหตุของน้ำทะเลหนุน
1. แรงดึงดูดของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์
- เป็นสาเหตุหลักของน้ำขึ้นน้ำลง
- ในช่วงที่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลกเรียงตัวกัน ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นมาก (Spring Tide)
2. สภาพอากาศ
- พายุ ลมแรง และความกดอากาศต่ำ ทำให้น้ำทะเลสูงกว่าปกติ
- มรสุมและลมตะวันออกเฉียงเหนือส่งผลให้เกิดน้ำทะเลหนุนในอ่าวไทย
3. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)
- ภาวะโลกร้อน ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้น
- พื้นที่ริมฝั่งทะเลจึงเสี่ยงถูกน้ำทะเลหนุนบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น
4. ภูมิประเทศและการใช้ประโยชน์ที่ดิน
- เมืองใหญ่ที่มีการถมที่ริมฝั่งหรือสร้างเขื่อนกันคลื่น อาจทำให้การระบายน้ำยากขึ้น
- พื้นที่ลุ่มต่ำ เช่น กทม. สมุทรปราการ สมุทรสาคร มีโอกาสได้รับผลกระทบสูง
ผลกระทบจากน้ำทะเลหนุน
1. ผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
- ถนนหนทางท่วมขัง การสัญจรติดขัด
- บ้านเรือน ร้านค้า และโรงงานได้รับความเสียหาย
2. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
- เกษตรกรรมเสียหาย โดยเฉพาะพื้นที่นาและสวนที่ถูกน้ำเค็มท่วม
- ธุรกิจท่องเที่ยวชายฝั่งได้รับผลกระทบ
3. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- น้ำเค็มไหลย้อนเข้ามาในแม่น้ำและแหล่งน้ำจืด
- ทำให้คุณภาพน้ำเสื่อมโทรม มีผลต่อระบบนิเวศ
4. ผลกระทบต่อสุขภาพ
- น้ำท่วมทำให้เกิดโรคน้ำกัดเท้า โรคผิวหนัง
- การปนเปื้อนของน้ำเค็มอาจส่งผลต่อคุณภาพน้ำดื่ม
วิธีรับมือน้ำทะเลหนุน
1. การป้องกันระดับชุมชน
- ก่อสร้างแนวเขื่อนป้องกันน้ำทะเล
- ขุดลอกคูคลองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ
- ใช้ระบบประตูระบายน้ำ (Flood Gate)
2. การป้องกันระดับครัวเรือน
- ยกของใช้ไฟฟ้าและของมีค่าให้พ้นจากระดับน้ำ
- สร้างแนวกั้นชั่วคราว เช่น กระสอบทราย
- ติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
3. การปรับตัวระยะยาว
- ร่วมมือกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อลดภาวะโลกร้อน
- วางผังเมืองที่คำนึงถึงความเสี่ยงน้ำท่วม
- ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีด้านการจัดการน้ำ
น้ำทะเลหนุนกับกรุงเทพฯ และปริมณฑล
กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง เช่น สมุทรปราการ สมุทรสาคร เป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำทะเลหนุนเป็นประจำ เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน
เมื่อระดับน้ำทะเลหนุนสูง จะทำให้แม่น้ำเจ้าพระยามีน้ำมากขึ้น จนเกิดภาวะน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะเมื่อเกิดพร้อมกับฝนตกหนักหรือน้ำเหนือไหลหลาก ยิ่งทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น
ตัวอย่างเหตุการณ์น้ำทะเลหนุนในประเทศไทย
- พฤศจิกายน 2565: น้ำทะเลหนุนสูงในกรุงเทพฯ ทำให้หลายเขตริมแม่น้ำเจ้าพระยาท่วมขัง
- ธันวาคม 2564: สมุทรปราการและสมุทรสาครได้รับผลกระทบ น้ำท่วมบ้านเรือนและถนนหลายสาย
- ทุกปีในช่วงตุลาคม–พฤศจิกายน: เป็นช่วงที่มักเกิดน้ำทะเลหนุนสูงในอ่าวไทยตอนบน
สิ่งที่ประชาชนควรทำเมื่อมีประกาศน้ำทะเลหนุน
- ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานรัฐ
- เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น กระสอบทราย
- เก็บของสำคัญขึ้นที่สูง
- เตรียมน้ำดื่มและอาหารสำรอง
- วางแผนเส้นทางสัญจรล่วงหน้า
สรุป
น้ำทะเลหนุนคือปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถ ลดผลกระทบและรับมือได้ด้วยการวางแผนและเตรียมการล่วงหน้า ทั้งในระดับครัวเรือน ชุมชน และประเทศ
การเข้าใจสาเหตุและผลกระทบของน้ำทะเลหนุน จะช่วยให้เรารับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก