กฎหมายคุ้มครองผู้เช่าหอพัก สิทธิ หน้าที่ และข้อควรรู้ก่อนเช่าห้องพัก

กฎหมายคุ้มครองผู้เช่าหอพัก

ในสังคมเมืองปัจจุบัน คนจำนวนไม่น้อยต้องพักอาศัยใน หอพักหรืออพาร์ตเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา คนทำงาน หรือผู้ที่ยังไม่มีบ้านเป็นของตนเอง ปัญหาที่พบบ่อยคือเรื่อง ค่าเช่าไม่เป็นธรรม การเก็บเงินประกันเกินกฎหมายกำหนด หรือการบังคับผู้เช่าในเงื่อนไขไม่ชอบธรรม

เพื่อคุ้มครองผู้เช่า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จึงออก ประกาศคุ้มครองผู้เช่าหอพัก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2561 ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญที่ช่วยให้ผู้เช่าได้รับความเป็นธรรม

หอพักที่เข้าข่ายกฎหมายคุ้มครอง

ไม่ใช่ว่าหอพักทุกประเภทจะถูกบังคับใช้กฎหมายนี้ เงื่อนไขคือ:

  • ต้องเป็นหอพักที่มี ตั้งแต่ 5 ห้องเช่าขึ้นไป
  • และมีการเก็บค่าเช่า ไม่เกิน 5,000 บาท/เดือน
  • หรือมีพื้นที่เช่าไม่เกิน 20 ตารางเมตรต่อห้อง

หากหอพักเข้าเงื่อนไขนี้ จะต้องปฏิบัติตามประกาศของ สคบ. อย่างเคร่งครัด

สิทธิของผู้เช่าตามกฎหมาย

  1. สัญญาเช่าต้องเป็นธรรม
    • ใช้ภาษาที่ชัดเจน ไม่กำกวม
    • ห้ามใส่เงื่อนไขที่เอาเปรียบผู้เช่า เช่น บังคับห้ามฟ้องศาล
  2. การเก็บเงินประกัน
    • เก็บได้ไม่เกิน 1 เดือนของค่าเช่า
    • ต้องคืนเงินประกันภายใน 7 วัน หลังผู้เช่าย้ายออก หากไม่มีความเสียหาย
  3. ค่าเช่าล่วงหน้า
    • เรียกเก็บได้ไม่เกิน 1 เดือน
  4. ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำ
    • ต้องเก็บตามอัตราที่รัฐกำหนดจริง
    • ห้ามบวกกำไรเกินสมควร
  5. สิทธิยกเลิกสัญญา
    • ผู้เช่าสามารถบอกเลิกสัญญาได้ โดยแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน
    • ผู้ประกอบการไม่มีสิทธิเก็บค่าเช่าเกินกว่ากำหนด

หน้าที่ของผู้เช่า

แม้กฎหมายจะคุ้มครองผู้เช่า แต่ผู้เช่าก็มีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติเช่นกัน ได้แก่

  • จ่ายค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ตามกำหนดเวลา
  • ดูแลห้องพักและทรัพย์สินของหอพักไม่ให้เสียหาย
  • ปฏิบัติตามกฎระเบียบของหอพัก (หากไม่ขัดต่อกฎหมาย)
  • ไม่ใช้ห้องพักในทางผิดกฎหมาย เช่น เปิดบ่อน หรือค้าของผิดกฎหมาย

หน้าที่ของผู้ประกอบการหอพัก

  • ต้องทำสัญญาเช่าเป็นลายลักษณ์อักษร
  • ต้องแจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างโปร่งใส
  • ห้ามยึดบัตรประชาชนหรือเอกสารของผู้เช่าไว้
  • ต้องคืนเงินประกันตามกำหนดเวลา
  • หากมีการปรับปรุงอัตราค่าเช่า ต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน

ตัวอย่างปัญหาที่พบบ่อย

  1. เก็บเงินประกันเกินกฎหมายกำหนด เช่น เก็บ 2-3 เดือน
  2. ไม่คืนเงินประกัน โดยอ้างว่าห้องสกปรกเล็กน้อย
  3. เก็บค่าไฟแพงเกินจริง เช่น หน่วยละ 7-8 บาท ทั้งที่ราคาจริงต่ำกว่านั้น
  4. บังคับผู้เช่าอยู่ครบสัญญา 1 ปี ไม่ให้ยกเลิกก่อน แม้กฎหมายให้สิทธิบอกเลิกได้

การร้องเรียนหากถูกเอาเปรียบ

หากผู้เช่าถูกเอาเปรียบ สามารถดำเนินการดังนี้:

  1. เก็บหลักฐาน เช่น สัญญาเช่า ใบเสร็จ ค่าไฟ ค่าน้ำ
  2. ยื่นเรื่องร้องเรียนที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
  3. หากต้องการฟ้องศาล สามารถยื่นฟ้องศาลผู้บริโภคได้

คำแนะนำสำหรับผู้เช่า

  • ก่อนเซ็นสัญญาควรอ่านรายละเอียดให้ครบถ้วน
  • ถ่ายรูปห้องก่อนเข้าอยู่เพื่อใช้เป็นหลักฐาน
  • ตรวจสอบค่าไฟฟ้า ค่าน้ำว่าเก็บตามจริงหรือไม่
  • เก็บสำเนาสัญญาเช่าและใบเสร็จทุกครั้ง
  • หากพบความไม่เป็นธรรม ควรรีบปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บทสรุป

กฎหมายคุ้มครองผู้เช่าหอพักเป็นเกราะป้องกันสำคัญที่ทำให้ผู้เช่าได้รับความเป็นธรรม ไม่ถูกเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเรื่อง เงินประกัน ค่าเช่าล่วงหน้า ค่าไฟ ค่าน้ำ และการเลิกสัญญา

ผู้เช่าควรรู้สิทธิของตนเองให้ชัดเจน เพื่อใช้ชีวิตในหอพักได้อย่างมั่นใจ และสามารถปกป้องสิทธิหากเกิดปัญหาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

Share the Post:

รีวิวคอนโด อุดมสุข

รีวิวบ้าน อุดมสุข

อัพเดตล่าสุด