การมี “บ้าน” เป็นความฝันของใครหลายคน แต่สำหรับคนที่มีหนี้บัตรเครดิตอยู่ อาจเกิดคำถามสำคัญว่า “มีหนี้บัตรเครดิต ซื้อบ้านได้ไหม?” เพราะหลายธนาคารให้ความสำคัญกับเครดิตทางการเงินของผู้กู้ หากคุณมีหนี้อยู่แล้ว อาจกระทบต่อการพิจารณาสินเชื่อบ้าน
บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจว่า การมีหนี้บัตรเครดิตส่งผลต่อการซื้อบ้านอย่างไร ธนาคารใช้เกณฑ์อะไรในการอนุมัติสินเชื่อ และคุณควรเตรียมตัวอย่างไรเพื่อเพิ่มโอกาสให้กู้บ้านผ่าน
การมีหนี้บัตรเครดิต กระทบต่อการซื้อบ้านหรือไม่?
คำตอบคือ “กระทบ” แต่ไม่ได้หมายความว่าจะซื้อบ้านไม่ได้เสมอไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น
- ประวัติการชำระหนี้
- หากชำระตรงเวลา ไม่มีการค้างชำระ ถือว่ายังมีโอกาสกู้บ้านผ่าน
- หากมีการผิดนัดหนี้บัตรเครดิต จะถูกบันทึกในเครดิตบูโร ส่งผลเสียต่อโอกาสกู้บ้าน
- สัดส่วนหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio: DSR)
- ธนาคารจะพิจารณาว่า ภาระหนี้ทั้งหมดของคุณไม่ควรเกิน 40–50% ของรายได้ต่อเดือน
- หากคุณมีหนี้บัตรเครดิตสูง ค่างวดบ้านที่ธนาคารอนุมัติอาจต่ำลง หรือกู้ไม่ผ่าน
- จำนวนหนี้ที่คงเหลือ
- หากยอดหนี้บัตรเครดิตสูงและมีการใช้วงเงินเกือบเต็ม อาจถูกมองว่ามีความเสี่ยง
- หากหนี้อยู่ในระดับพอควร และมีการบริหารจัดการดี โอกาสกู้ก็ยังมี
ตัวอย่างสถานการณ์จริง
- กรณีที่ 1: นายเอ มีรายได้ 40,000 บาทต่อเดือน มีหนี้บัตรเครดิตประมาณ 10,000 บาท และชำระตรงเวลามาตลอด → โอกาสกู้บ้านยังมีสูง เพราะ DSR อยู่ในเกณฑ์ที่ธนาคารรับได้
- กรณีที่ 2: นางสาวบี มีรายได้ 30,000 บาท แต่ใช้วงเงินบัตรเครดิตเต็มทุกเดือนและจ่ายเพียงขั้นต่ำ → ธนาคารอาจปฏิเสธการกู้ เพราะมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและประวัติการชำระ
เกณฑ์การพิจารณาของธนาคาร
- รายได้ประจำและความมั่นคง
- ธนาคารให้ความสำคัญกับรายได้ที่แน่นอนและสม่ำเสมอ
- ประวัติทางการเงิน (เครดิตบูโร)
- หากเคยผิดนัดชำระ จะถูกบันทึกและส่งผลเสียต่อการกู้
- ภาระหนี้ที่มีอยู่
- รวมทั้งหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อรถยนต์
- มูลค่าหลักประกัน
- บ้านหรือคอนโดที่จะซื้อจะถูกนำมาประเมินมูลค่า หากต่ำกว่าราคาซื้อขาย ธนาคารอาจอนุมัติวงเงินไม่เต็ม
วิธีเพิ่มโอกาสให้กู้บ้านผ่าน แม้มีหนี้บัตรเครดิต
1. จัดการหนี้บัตรเครดิตให้ดี
- ลดการใช้บัตรเครดิตในสิ่งที่ไม่จำเป็น
- พยายามปิดหนี้บัตรเครดิตก่อนยื่นกู้บ้าน
2. ชำระหนี้ตรงเวลา
- แม้ยังมีหนี้อยู่ แต่หากจ่ายตรงเวลาและจ่ายมากกว่าขั้นต่ำ จะช่วยให้เครดิตบูโรดูดี
3. ลดสัดส่วน DSR ให้อยู่ในเกณฑ์
- หากรายได้ 30,000 บาท ภาระหนี้ควรไม่เกิน 12,000–15,000 บาทต่อเดือน
- หากเกิน แนะนำให้ปิดหนี้บางส่วนก่อน
4. ใช้ผู้กู้ร่วม
- การมีผู้กู้ร่วม เช่น คู่สมรส พ่อแม่ หรือญาติ ช่วยเพิ่มรายได้รวม ทำให้ธนาคารพิจารณาง่ายขึ้น
5. วางแผนล่วงหน้า
- ก่อนยื่นกู้บ้าน ควรเคลียร์หนี้บัตรเครดิตล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน
- รักษาวินัยทางการเงินและมีเงินออมสำรอง
คำแนะนำสำหรับคนที่มีหนี้บัตรเครดิตแล้วอยากซื้อบ้าน
- อย่าหลีกเลี่ยงการชำระหนี้ เพราะจะทำให้เครดิตเสีย
- จัดทำแผนการเงิน โดยแบ่งรายได้เป็นส่วน ๆ เช่น ค่าใช้จ่ายประจำ เงินเก็บ และหนี้สิน
- ใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัย เช่น ไม่กดเงินสดจากบัตรเครดิต ไม่ใช้เกินความจำเป็น
- สร้างประวัติการเงินที่ดี เพราะธนาคารจะใช้ข้อมูลย้อนหลังอย่างน้อย 24 เดือน
สรุป
คำถามที่หลายคนสงสัยว่า “มีหนี้บัตรเครดิต ซื้อบ้านได้ไหม” คำตอบคือ “ได้” แต่ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการหนี้และพฤติกรรมทางการเงินของคุณ หากคุณยังชำระหนี้ตรงเวลา ไม่ใช้วงเงินเกินตัว และมีสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โอกาสกู้บ้านผ่านก็ยังมีสูง
แต่หากคุณใช้บัตรเครดิตเต็มวงเงิน จ่ายเพียงขั้นต่ำ หรือมีประวัติค้างชำระ การกู้บ้านอาจเป็นไปได้ยาก ดังนั้น การจัดการหนี้บัตรเครดิตให้เรียบร้อยคือก้าวสำคัญในการสร้างความฝันเรื่องบ้านให้เป็นจริง



















