กู้ตกแต่งบ้าน วางแผนอย่างไรให้ได้บ้านในฝันโดยไม่ล้มละลาย

การมีบ้านเป็นของตัวเองคือความฝันของใครหลายคน แต่เมื่อมีบ้านแล้ว “การตกแต่งบ้าน” ให้ตรงตามรสนิยมและไลฟ์สไตล์ก็เป็นอีกขั้นตอนสำคัญที่หลายคนรอคอย ทว่าการตกแต่งบ้านโดยไม่วางแผนด้านการเงินให้ดี อาจนำไปสู่ปัญหาหนี้สินที่เกินตัวได้เช่นกัน ดังนั้น “สินเชื่อเพื่อการตกแต่งบ้าน” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “กู้ตกแต่งบ้าน” จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยบริหารงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการกู้ตกแต่งบ้านอย่างละเอียด ครอบคลุมตั้งแต่ประเภทของสินเชื่อ, ขั้นตอนการขอกู้, เงื่อนไข, ดอกเบี้ย ไปจนถึงเคล็ดลับการบริหารเงินให้ไม่พังหลังจากบ้านเสร็จ

สินเชื่อกู้ตกแต่งบ้านคืออะไร?

สินเชื่อกู้ตกแต่งบ้าน คือ สินเชื่อประเภทหนึ่งที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินให้กับผู้ที่ต้องการนำเงินไปใช้ในงานต่อเติม ปรับปรุง หรือซื้อเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน โดยปกติจะมีวงเงินสูง อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล และผ่อนชำระได้นาน

ประเภทของสินเชื่อกู้ตกแต่งบ้าน

1. สินเชื่อบ้านเพื่อการตกแต่ง (Home Loan for Renovation)

เหมาะสำหรับเจ้าของบ้านที่มีหลักประกัน (เช่น โฉนดที่ดิน) และต้องการวงเงินกู้สูง ใช้โฉนดจำนองกับธนาคารเพื่อนำเงินมาใช้ตกแต่งบ้าน อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อทั่วไป

จุดเด่น:

• วงเงินสูง (70-100% ของราคาประเมิน)
• ผ่อนยาว 10-30 ปี
• ดอกเบี้ยต่ำกว่า 5-7% ต่อปี

2. สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อการตกแต่งบ้าน

เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีหลักประกัน หรือไม่ต้องการจำนองบ้าน ใช้เพียงเอกสารแสดงรายได้ วงเงินไม่สูงนัก แต่ออกเงินได้ไว

จุดเด่น:

• ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
• ได้เงินเร็ว ภายใน 1-3 วันทำการ
• ดอกเบี้ย 10-25% ต่อปี (สูงกว่าสินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์)

3. สินเชื่อรีไฟแนนซ์พร้อมวงเงินตกแต่งบ้าน

หากคุณมีบ้านที่ผ่อนอยู่กับธนาคาร และต้องการลดดอกเบี้ยพร้อมขอวงเงินเพิ่มเพื่อตกแต่งบ้าน สามารถรวมเป็นแพ็คเกจรีไฟแนนซ์ + กู้ตกแต่งได้เลย

จุดเด่น:

• ลดดอกเบี้ยบ้านเดิม
• ได้วงเงินเพิ่มสำหรับการตกแต่ง
• ผ่อนรวมเป็นงวดเดียว

ข้อดีของการกู้ตกแต่งบ้าน

• ได้บ้านที่ตรงตามความต้องการทันที
• ไม่กระทบสภาพคล่องของเงินสด
• ชำระแบบผ่อนรายเดือน ไม่ต้องใช้เงินก้อน
• ดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อบัตรเครดิตหรือเงินกู้ทั่วไป
• มีระยะเวลาผ่อนนานถึง 30 ปี

ขั้นตอนการขอกู้ตกแต่งบ้าน

1. ประเมินงบประมาณและขอบเขตก่อสร้าง

เริ่มจากกำหนดความต้องการในการตกแต่ง เช่น ทุบห้อง ต่อเติมครัว ติดตั้งผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์ built-in ฯลฯ พร้อมประเมินงบประมาณรวม

2. เลือกประเภทสินเชื่อให้เหมาะสม

ตรวจสอบว่าเราควรใช้สินเชื่อแบบไหน ระหว่างแบบมีหลักทรัพย์หรือไม่ต้องมี และเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากหลายธนาคาร

3. เตรียมเอกสารประกอบการกู้

เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน สำเนาโฉนดที่ดิน แบบแปลนหรือ BOQ (Bill of Quantity)

4. ยื่นขอสินเชื่อกับธนาคาร

ธนาคารจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ และประเมินราคาทรัพย์สิน หากอนุมัติจะมีการนัดวันเซ็นสัญญาและเบิกเงิน

5. เริ่มงานตกแต่งบ้าน

เมื่อได้รับเงินแล้ว สามารถดำเนินงานได้ตามแผนงานและระยะเวลาที่กำหนด

ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการกู้ตกแต่งบ้าน

รายการ	ประมาณการค่าใช้จ่าย
ค่าประเมินราคาทรัพย์	2,000 – 3,000 บาท
ค่าธรรมเนียมการจัดการสินเชื่อ	0.5% – 1% ของวงเงิน
ค่าจดจำนอง (ถ้ามีหลักทรัพย์)	1% ของวงเงินกู้
ค่าประกัน MRTA (ไม่บังคับทุกธนาคาร)	ขึ้นอยู่กับอายุและวงเงิน
ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย	ปีละ 1,000 – 3,000 บาท

เคล็ดลับการบริหารเงินจากการกู้ตกแต่งบ้าน

1. ใช้เงินตามแผนที่วางไว้เท่านั้น
   อย่าหลงไปกับโปรโมชั่นหรือของตกแต่งราคาเกินงบ
2. อย่ากู้เต็มวงเงินถ้าไม่จำเป็น
   คำนวณความสามารถในการผ่อนรายเดือนอย่างรอบคอบ
3. เลือกช่าง/ผู้รับเหมาที่เชื่อถือได้
   ควรมีใบเสนอราคาชัดเจนและมีสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร
4. เผื่องบฉุกเฉิน 5-10%
   เพราะงานตกแต่งบ้านมักมีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
5. ตรวจสอบภาษีหรือค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง
   บางกรณี เช่น ต่อเติมบ้าน ต้องขออนุญาตและมีค่าใช้จ่ายตามมา

ตัวอย่างการคำนวณ

• ต้องการตกแต่งบ้านงบประมาณ 400,000 บาท
• กู้แบบมีหลักประกันจากธนาคาร
• อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี ระยะเวลา 10 ปี
• ค่างวดประมาณ 4,200 บาท/เดือน

หากกู้แบบไม่มีหลักประกัน (สินเชื่อส่วนบุคคล) ดอกเบี้ย 15% ต่อปี

• ค่างวดประมาณ 6,000 – 7,000 บาท/เดือน

คำถามที่พบบ่อย

Q: กู้ตกแต่งบ้านได้สูงสุดเท่าไหร่?

A: แล้วแต่ประเภทสินเชื่อ ถ้าใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน อาจได้สูงสุดถึง 90% ของราคาประเมินบ้าน

Q: ต้องมีบ้านเป็นชื่อเราไหมถึงจะกู้ได้?

A: ถ้าเป็นสินเชื่อแบบมีหลักประกัน ต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้าน หากเป็นแบบไม่มีหลักประกันสามารถกู้ได้ตามรายได้

Q: กู้ตกแต่งบ้านต้องใช้ผู้ค้ำไหม?

A: ส่วนใหญ่ไม่ต้อง ถ้ารายได้ถึงเกณฑ์ ยกเว้นบางธนาคารอาจกำหนดตามอายุหรือประวัติเครดิต

Q: สามารถรวมการซื้อเฟอร์นิเจอร์ในวงเงินกู้ได้ไหม?

A: ได้ หากเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นระบุไว้ใน BOQ หรือแบบแปลนการตกแต่ง

สรุป

การกู้ตกแต่งบ้านเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการบ้านที่สวยงามน่าอยู่ โดยไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อน แต่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ทั้งในเรื่องงบประมาณ รายได้ต่อเดือน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ตามมา